เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งต่ออธิบดีกรมพิธีการทูตชิลี ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่ง

เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งต่ออธิบดีกรมพิธีการทูตชิลี ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่ง

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 เม.ย. 2567

| 673 view

เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ได้เข้าพบและยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งต่อนาง Manahi Pakarati Novoa อธิบดีกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐชิลี โดยนับแต่นี้เป็นต้นไป เอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ จะสามารถเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเอกอัครราชทูตไทยประจำชิลีอย่างเป็นทางการ

เอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ ได้แสดงความขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศชิลีที่นัดหมายให้เข้าพบเพื่อยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งได้อย่างรวดเร็ว และกล่าวแสดงความยินดีที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตไทยในประเทศชิลี โดยเน้นย้ำว่า แม้ไทยกับชิลีจะอยู่ห่างไกลกันด้วยระยะทาง แต่ไม่ควรให้ให้ปัจจัยความห่างไกลดังกล่าวเป็นอุปสรรคในการสร้างความสัมพันธ์ที่เน้นแฟ้นกันยิ่งขึ้น ตลอดจนได้แสดงความพร้อมที่จะศึกษาเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติที่ดีของชิลีในหลากหลายด้าน เช่น นวัตกรรม พลังงานสะอาด การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการวิจัยดาราศาสตร์ ฯลฯ เพื่อนำไปเป็นประโยขน์กับประเทศไทย และได้ใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณฝ่ายชิลีที่ได้แสดงความพร้อมในการสนับสนุนไทยให้เข้าเป็นสมาชิกของ OECD และยินดีที่จะได้แลกเปลี่ยนแนวทางและประสบการณ์ของชิลีในเรื่องดังกล่าวต่อไป

อธิบดี Pakarati ได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ ด้วยความอบอุ่น และชื่นชมประเทศไทยที่มีความสวยงามและผู้คนมีไมตรีจิต โดยตนได้มีโอกาสเยือนไทยครั้งแรกพร้อมกับคณะของประธานาธิบดีกาเบรียล บอริก ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเมื่อปี ๒๕๖๕ ซึ่งยังคงประทับใจกับความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพและต้อนรับคณะผู้แทนของฝ่ายชิลีอย่างดียิ่ง และในโอกาสนี้ ได้กล่าวเชิญชวนเอกอัครราชทูตฯ ให้เดินทางไปยังเกาะอีสเตอร์ หรือ Rapa Nui ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน ซึ่งเอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมเกาะอีสเตอร์ในโอกาสแรกเร็ว ๆ นี้

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการดูแลชุมชนของตนในต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ ได้แสดงความตั้งใจที่จะดูแลชุมชนไทยในชิลีอย่างเต็มที่ ให้ความอบอุ่นใจแก่ชุมชนไทยในชีลี และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยมากยิ่งขึ้น โดยขอให้ทางการชิลีให้การสนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการดำเนินการด้านนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป รวมถึง ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแนวทางในการส่งเสริมบทบาทของสตรีในด้านการทูต โดยอธิบดี Pakarati กล่าวว่า ในชิลีมีกลุ่มเอกอัครราชทูตสตรีที่มีบทบาทแข็งขันมาก และมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรม Thai Wellness Day for Female Ambassadors in Oslo เพื่อประชาสัมพันธ์การนวดแผนไทยและอาหารไทย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ตั้งใจจะจัดกิจกรรมลักษณะเช่นนี้ในชีลีเช่นกัน และขอเชิญอธิบดี Pakati เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับอธิบดี Pakarati ในโอกาสที่จะได้ไปประจำการที่ประเทศนิวซีแลนด์อีกด้วย

อนึ่ง เอกอัครราชทูตวิมลพัชระฯ ได้เดินทางมาถึงชิลีเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗ โดยที่ผ่านมา เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน และอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

Imagen_de_WhatsApp_2024-04-23_a_las_17.48.05_3449bd5b

 

Imagen_de_WhatsApp_2024-04-23_a_las_17.48.07_27ea2d9a   Imagen_de_WhatsApp_2024-04-23_a_las_17.48.08_332f889e  Imagen_de_WhatsApp_2024-04-23_a_las_17.48.08_90a83e3b