เมื่อวันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมคณะผู้แทนไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ตามคำเชิญของดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและความยั่งยืน” (Inclusivity and Sustainability) ซึ่งนับเป็นการเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 24 - 25 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีฯ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (APSC) ครั้งที่ 30 การประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ACC) ครั้งที่ 37 การประชุมร่วมรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และการหารืออย่างไม่เป็นทางการแบบขยาย (Extended Informal Consultation) เกี่ยวกับการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อในเรื่องเมียนมา เพื่อเตรียมการการประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้ด้วย

ไทยยึดมั่นในการแสดงบทบาทในฐานะ “ผู้เล่นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนา” โดยได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองกับคณะผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อหารือทิศทางการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 โดยเฉพาะการยึดมั่นในเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียน การรวมตัวและพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืนผ่านการส่งเสริมการค้าภายในภูมิภาค การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและทางดิจิทัลโดยมุ่งให้สามารถลงนามกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน หรือ “DEFA” ได้ภายในปี 2569 รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์และแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญในภูมิภาค อาทิ สถานการณ์ในเมียนมา สถานการณ์ไทย - กัมพูชา การหลอกลวงทางออนไลน์ซึ่งไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบและครอบคลุม หมอกควันข้ามแดน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และโรคระบาด

ในการประชุมกับภาคีภายนอก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐฯ นิวซีแลนด์ (สมัยพิเศษ) และสหประชาชาติ ไทยได้ร่วมกำหนดทิศทางความร่วมมือและหารือประเด็นสำคัญที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น การร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับปัญหาข้ามพรมแดน โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางออนไลน์ และหมอกควันข้ามแดน การส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค การยกระดับความตกลงการค้าเสรี ความร่วมมือด้านการเงิน ความมั่นคงทางอาหาร การบริหารจัดการภัยพิบัติ และการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ที่สอดคล้องไปกับการบรรลุเป้าหมายของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ หรือ Complementarities Initiative 2.0 ซึ่งไทยเป็นผู้ริเริ่มและผลักดัน เป็นต้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สำคัญอื่น ๆ อาทิ พิธีลงนามเอกสารเพื่อรับติมอร์-เลสเตเป็นสมาชิกอาเซียน งานเลี้ยงรับรองในโอกาสเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต งานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน - นิวซีแลนด์ ตลอดจนการหารือทวิภาคีทั้งในระดับผู้นำประเทศและผู้แทนระดับสูงขององค์การระหว่างประเทศ และระดับรัฐมนตรี ที่มาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย