รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในบริบทของการพัฒนา และการปฏิบัติตาม กรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ปี ๒๕๕๘ – ๒๕๗๓”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในบริบทของการพัฒนา และการปฏิบัติตาม กรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ปี ๒๕๕๘ – ๒๕๗๓”

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ก.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 3,494 view

            เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวเปิดการสัมมนาเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในบริบทของการพัฒนา และการปฏิบัติตามกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ปี ๒๕๕๘ – ๒๕๗๓ (Development Cooperation Seminar on Disaster Risk Reduction: Implementing the Sendai Framework for Resilient Development in Thailand) ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานสหประชาชาติในประเทศไทยจัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักถึงการกำหนดนโยบายการพัฒนาที่คำนึงถึงการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและย้ำถึงบทบาทนำของไทยในการจัดการภัยพิบัติ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการปฏิบัติตามกรอบการดำเนินงานเซนไดฯ ในภูมิภาค ทั้งนี้ มีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ  หน่วยงานสหประชาชาติ และภาคประชาสังคม ที่ทำงานเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมถึงคณะทูตานุทูตในประเทศไทยเข้าร่วมสัมมนาดังกล่าวกว่า ๑๐๐ คน

            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นองค์ประกอบ ๓ ประการที่สำคัญในการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ได้แก่ ๑) การเตรียมความพร้อมและความสามารถที่จะประเมินความเสี่ยง ๒) การป้องกันที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการให้ความรู้แก่เยาวชนเพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ ๓) ความสำคัญของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและการเสริมสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งคำถาม ๓ ข้อให้ที่ประชุมพิจารณา ดังนี้ ๑) จะผนวกการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเข้าสู่กระแสหลักด้านการพัฒนาได้อย่างไร ๒) จะส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างไร และ ๓) ระบบสหประชาชาติจะทำงานร่วมกันอย่างไรเพื่อตอบสนองและช่วยให้ประเทศสมาชิกลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

            ในโอกาสนี้ นางมาร์กาเรตา วอห์ลสตรอม (Ms. Margareta Wahlström) ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Special Representative of the Secretary-General for Disaster Risk Reduction – SRSG for DRR) ได้กล่าวปาฐกถาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติซึ่งมีรูปแบบหลากหลาย และครอบคลุมประเด็นและมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นด้านสาธารณสุข และกรอบการดำเนินงานเซนได ซึ่งสะท้อนอยู่ในวาระการพัฒนา ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยย้ำถึงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน อาทิ ระดับท้องถิ่น ประเทศ ภูมิภาค และระหว่างประเทศในการขับเคลื่อนกรอบการดำเนินการเซนไดฯ สู่การปฏิบัติเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้การพัฒนาของโลกเกิดความยั่งยืน

              นอกจากนี้ การอภิปรายระดับสูงมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมอภิปราย ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme – UNDP) และนางวอห์ลสตรอมได้ให้เกียรติเป็นผู้ดำเนินการอภิปราย โดยผู้เข้าร่วมต่างเห็นว่า ปัจจุบันภาครัฐตระหนักถึงผลกระทบของภัยพิบัติในวงกว้าง และเห็นพ้องถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการบูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและการเสริมสร้างความต้านทานในการพัฒนาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ตลอดจนปรับปรุงแผนงาน โครงสร้าง หน่วยงาน งบประมาณในระดับหน่วยงานให้สอดคล้องกับแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติปี ๒๕๕๘ โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนในระดับท้องถิ่น ในทุกกระบวนการตั้งแต่การวางแผน การปฏิบัติและการประเมินผล รวมทั้ง องค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาคสามารถให้การช่วยเหลือเพื่อให้แต่ละประเทศบรรลุเป้าหมายของกรอบการดำเนินงานเซนไดฯ นอกจากนี้ มีการหยิบยกประเด็นด้านการสื่อสาร (Communication) กับประชาชนและระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพ โดยผู้อภิปรายเห็นว่า การเตือนภัยล่วงหน้าเป็นส่วนสำคัญของการสื่อสารกับประชาชน แต่ควรคำนึงถึงการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติควบคู่กันด้วย

              ทั้งนี้ การสัมมนาดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้การกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาของไทย สอดคล้องกับกรอบการดำเนินงานเซนไดฯ และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติปี ๒๕๕๘ โดยคำนึงถึงการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติมากขึ้น ตลอดจนเน้นการขยายบทบาทการมีส่วนร่วมและการเชื่อมโยงการปฏิบัติตามนโยบายของทุกภาคส่วน โดยจำเป็นต้องเร่งสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎหมาย และการระดมทุนที่เอื้อต่อการดำเนินนโยบายดังกล่าวในทุกระดับ 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ