นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซีย ที่เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย

นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซีย ที่เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 พ.ค. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 5,200 view

         เมื่อวันที่ ๑๙ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – รัสเซีย สมัยพิเศษ (ASEAN – Russia Commemorative Summit) ตามคำเชิญของนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ณ เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย ในวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ ๒๐ ปีความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและรัสเซีย

          ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำอาเซียนและรัสเซียได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเน้นการรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รวมทั้งการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสนับสนุนบทบาทของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และส่งเสริมให้อาเซียนและรัสเซียขยายความร่วมมือในการต่อต้านยาเสพติดร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. อาเซียน ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายการค้าและการลงทุน โดยไทยได้สนับสนุนการลดอุปสรรคทางการค้าของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความร่วมมือในลักษณะ +๑  เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของแต่ละประเทศ และสนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีข้อตกลงการค้าเสรีอย่างครอบคลุมระหว่างอาเซียนและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union-EAEU)

          หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศอาเซียนอีก ๙ ประเทศ และประธานาธิบดีรัสเซียได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างอาหารกลางวันกับผู้แทนจากคณะกรรมาธิการสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Commission) และเลขาธิการองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Orgnanization-SCO) โดยได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน EAEU SCO  รวมทั้งโครงการสายไหมของจีน ทั้งนี้ ไทยได้สนับสนุนการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ทั้งในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค ทั้งด้านการคมนาคม เศรษฐกิจ และระหว่างประชาชน โดยอาจครอบคลุมองค์การระหว่างประเทศและเวทีการประชุมต่างๆ รวมถึงอาเซียน EAEU SCO และ กรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue-ACD) นอกจากนี้ ฝ่ายไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานของอาเซียนกับองค์การสหประชาชาติในประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และประธานกลุ่ม ๗๗ ที่นครนิวยอร์ก ยังได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศหรือองค์การระดับภูมิภาคต่างๆ ที่สนใจในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี ค.ศ.๒๐๓๐

          ในการนี้ ผู้นำอาเซียนและรัสเซียได้รับรองปฏิญญาโซชิ และได้รับทราบแผนปฏิบัติการอย่างครอบคลุมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหพันธรัฐรัสเซีย ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ รวมทั้งข้อเสนอแนะจากรายงานของกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิอาเซียน-รัสเซียเพื่อเป็นแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกมิติและผลักดันความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับรัสเซียให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับรัสเซียในอนาคต (ผู้แทนไทยในกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิอาเซียน-รัสเซีย คือ นายนรชิต สิงหเสนี อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศและอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของไทยในอาเซียน)

          นอกจากนี้ รัสเซียยังได้จัดกิจกรรมคู่ขนานในระหว่างการประชุมสุดยอด ได้แก่ การประชุม ASEAN-Russia Business Forum และกิจกรรมทางวัฒนธรรมซึ่งประกอบด้วยการประชุมรัฐมนตรีวัฒนธรรมอาเซียน-รัสเซีย และเทศกาลวัฒนธรรมอาเซียน-รัสเซีย

          ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับประธานาธิบดีรัสเซียและได้เชิญให้เยือนประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๒๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย ด้านการค้าและการลงทุน ฝ่ายรัสเซียพร้อมสนับสนุนไทยในการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะสนับสนุนไทยในการจัดตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรในรัสเซีย และการผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูง ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือในประเด็นความร่วมมือด้านวัฒนธรรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้ขอให้ฝ่ายรัสเซียส่งหัวหน้ารัฐบาลเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ ด้วย

         หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรียังได้พบหารือกับนายถิ่น จอ ประธานาธิบดีเมียนมา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของความร่วมมือโครงการทวาย การแก้ปัญหาต่างๆ บริเวณชายแดน และการส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจบริเวณชายแดน โดยมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเมียนมาขอให้ฝ่ายไทยดูแลแรงงานเมียนมาที่เข้าทำงานในประเทศไทยด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ