นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 ต.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 21 ต.ค. 2566

| 3,919 view

เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด (H.R.H. Prince Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือทวิภาคีในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

นายกรัฐมนตรีใช้โอกาสดังกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในวิสัยทัศน์ของผู้พิทักษ์สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Majesty King Salman bin Abdulaziz Al Saud) และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่ทรงวางรากฐานอันนำไปสู่การปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองราชอาณาจักรให้เป็นปกติโดยสมบูรณ์ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่าไทยและซาอุดีอาระเบียยังมีโอกาสจะร่วมมือกันอีกมากเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกมิติให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นต่อไป

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือและกำหนดแนวทางการผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายให้เพิ่มสูงขึ้น ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจและความตกลงต่าง ๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน และผ่านการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีในกรอบคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ

นอกจากนี้ ไทยและซาอุดีอาระเบียเห็นชอบร่วมกันที่จะส่งเสริมการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยซาอุดีอาระเบียแสดงความพร้อมที่จะผลักดันข้อริเริ่มด้านการลงทุนในหลายสาขาผ่านกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (Public Investment Fund: PIF)

อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันที่จะผลักดันให้จัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดี - ไทย (Saudi – Thai Coordination Council: STCC) ครั้งที่ ๑ ที่ประเทศไทยในปี ๒๕๖๗ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม ซึ่งจะเป็นเวทีสำคัญในการนำข้อตัดสินใจในระดับผู้นำมาหารือกันในรายละเอียด เพื่อผลักดันความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองฝ่ายต่อไป

ในประเด็นด้านการกงสุล นายกรัฐมนตรีของไทยขอบคุณรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ให้การดูแลคนไทยกว่า ๖,๐๐๐ คน ที่อาศัยอยู่ในซาอุดีอาระเบีย และแลกเปลี่ยนมุมมองต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลซึ่งส่งผลให้คนไทยผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต บาดเจ็บและถูกลักพาตัว ซึ่งรัฐบาลซาอุดีอาระเบียยืนยันความพร้อมให้การช่วยเหลือคนไทย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ