สรุปการแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

สรุปการแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 พ.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 11 พ.ย. 2568

| 473 view

สรุปการแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดของสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา

โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น.

ณ ห้องแถลงข่าว และทาง Facebook/TIKTOK/Youtube LIVE กระทรวงฯ

 

  • เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
  • ตามการชี้แจงดังกล่าว การแถลงข่าวในวันนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ (1) ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ตามการยืนยันและข้อมูลจากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง (2) ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ และ (3) การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ

 

  1. เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568
  • เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 กองทัพบกยืนยันว่า เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เกิดจากการลักลอบวางทุ่นระเบิดใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บรวม 4 คน และ 1 ใน 4 คนนี้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขวาขาด
  • กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งต่อทหารไทยทุกท่านที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
  • กองทัพบกชี้แจงเพิ่มเติมว่า พื้นที่ลาดตระเวนดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เคยทำการลาดตระเวนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่จากการเข้าไปพิสูจน์ทราบบริเวณจุดเกิดเหตุภายหลังโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้ตรวจพบชิ้นส่วนทุ่นระเบิด PMN-2 ภายในหลุมระเบิดและพื้นที่ใกล้เคียง และยังตรวจพบทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ทุ่นบริเวณรอบ ๆ หลุมระเบิด ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า พื้นที่เกิดเหตุเคยเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง จึงสรุปได้ว่า มีการลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทยโดยฝ่ายกัมพูชา

 

  1. ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
  • ประเทศไทยให้ความสำคัญกับ Joint Declaration หรือถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกัน เนื่องจากเป็นเอกสารที่ฝ่ายไทยย้ำเสมอว่า เป็นแนวทางที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยความจริงใจและความสุจริตใจของทั้งสองฝ่ายในการปฏิบัติตาม
  • เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และที่ประชุมเห็นว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ยึดมั่นและมุ่งมั่นปฏิบัติตาม Joint Declaration มาโดยตลอด และการดำเนินการมีความคืบหน้าในหลายเรื่อง แต่เป็นที่น่าผิดหวังที่ล่าสุด ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด Joint Declaration โดยลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทย
  • ฝ่ายไทยถือว่า การกระทำนี้เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ และยังเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวาที่กัมพูชาเป็นรัฐภาคี สะท้อนถึงความไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการลดระดับความขัดแย้ง
  • ด้วยเหตุเหล่านี้ ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องระงับการดำเนินการตาม Joint Declaration ซึ่งรวมถึงการส่งตัวทหารกัมพูชาที่ฝ่ายไทยกำลังควบคุมอยู่ 18 คน ออกไปก่อน จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความรับผิดชอบและให้ความมั่นใจได้ว่า ฝ่ายกัมพูชาจะดำเนินการต่าง ๆ ตาม Joint Declaration โดยเฉพาะในเรื่องของทุ่นระเบิด ด้วยความจริงใจและสุจริตใจ ในการนี้ ฝ่ายไทยจึงเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการ 3 เรื่อง คือ (1) แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ (2) ดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว และ (3) ดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยทั้งหมดนี้ จะต้องให้ AOT รับรู้และเข้าไปตรวจสอบด้วย
  • ฝ่ายไทยจะเฝ้าติดตามเพื่อประเมินท่าทีและการตอบสนองของฝ่ายกัมพูชา ก่อนที่จะพิจารณามาตรการอื่น ๆ ของฝ่ายไทยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
  • อย่างไรก็ดี การดำเนินการอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทยและสามารถดำเนินการโดยไทยฝ่ายเดียวได้ ก็ยังคงดำเนินต่อไป เช่น การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และการปราบปรามออนไลน์สแกม

 

  1. การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ
  • รัฐมนตรีฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประเทศกัมพูชา เพื่อทำการประท้วงในเบื้องต้นแล้ว 2 ครั้ง (1) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ขณะที่รัฐมนตรีฯ ปฏิบัติราชการอยู่ที่ฮ่องกง และ (2) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 อีกรอบหนึ่ง
  • กระทรวงฯ กำลังจะยื่นหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย
  • ฝ่ายไทยจะดำเนินการต่อเรื่องนี้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) คือ การมีหนังสือถึงประธานรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา (ญี่ปุ่น) และเลขาธิการสหประชาชาติ
  • ฝ่ายไทยจะเดินหน้าชี้แจ้งประชาคมระหว่างประเทศ โดยจะมีหนังสือถึงสหรัฐฯ และมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สังเกตการณ์การลงนาม Joint Declaration ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยจะเวียนหนังสือดังกล่าวให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบด้วย และในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 (วันพรุ่งนี้) กระทรวงการต่างประเทศจะจัดการบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงท่าทีไทยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
  • นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้สั่งการให้เวียนผลสรุปการชี้แจงทั้งหมดนี้ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศอีกทางหนึ่ง เพื่อให้ไทยมีท่าทีที่สอดคล้องกันทั่วโลกในการชี้แจงกับประเทศเจ้าบ้านต่อไป
  • ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ ได้เดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ โดยอยู่ระหว่างเยี่ยมทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บและรับฟังข้อมูลสถานการณ์จริงในพื้นที่

 

  • ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ข้อตกลงต่าง ๆ ในกรอบทวิภาคี รวมถึง Joint Declaration ได้รับการเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • ประเทศไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบด้วยความจริงใจและสุจริตใจ พร้อมให้คำมั่นที่จะสอบสวนกรณีดังกล่าวและดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

 

สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/1CbWHbKooj/?mibextid=wwXIfr

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ