สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ม.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 7 ม.ค. 2566

| 8,068 view

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์

วันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ น.

ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ และทาง Facebook live กระทรวงการต่างประเทศ

 

  • ขอแสดงความเสียใจและถวายความอาลัยในการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ที่ ๑๖ เมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๒๕๖๕ นรม. ได้มีสารแสดงความเสียใจเลขาธิการสันตะสำนัก รวมทั้ง รนรม./รมว. กต. ได้มีสารถึงเลขาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างรัฐแห่งสันตะสำนัก ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ ๔ ม.ค. ๒๕๖๖ รนรม./รมว.กต. เป็นผู้แทน นรม. ลงนามถวายความอาลัย ณ สถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย
  • อุบัติเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ ๑๘ ธ.ค. ๒๕๖๕ ในนามของ กต. รัฐบาล และชาวไทยขอขอบคุณทุกสาร ข้อความแสดงความเสียใจและไมตรีจิตจากรัฐบาลและหน่วยงานของต่างประเทศ ทั้งพลเรือนและทหาร ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

๑. การดำเนินการของ กต. กรณีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมแกรนด์ไดม่อน ปอยเปต

  • ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรมแกรนด์ไดม่อนที่ปอยเปต เมื่อวันที่ ๒๙ ธ.ค. ๒๕๖๕ ส่งผลให้มี คนไทยเสียชีวิต ๑๙ ราย สอท. ณ กรุงพนมเปญ และกรมการกงสุล ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ จ.สระแก้ว ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา และหน่วยงานกัมพูชาที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด
  • สอท.ฯ ได้จัดทำฐานข้อมูลคนไทยที่ต้องการขอรับเอกสารเดินทางกลับไทย เพื่ออำนวยความสะดวกออกเอกสารเดินทางกลับให้คนไทย ปัจจุบันได้ดำเนินการออกเอกสารผ่านระบบ online และทาง แอปพลิเคชันไลน์ของ สอท. ให้คนไทยเดินทางกลับแล้วกว่า ๑๐๐ ราย และได้ประสานนำศพผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันศพของผู้ที่เสียชีวิตคนไทยทั้งหมดได้ถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
  • ทั้งนี้ ยังมีผู้สูญหายคนไทยอีก ๔ รายและยังมีศพผู้เสียชีวิตอีก ๕ รายในฝั่งกัมพูชา พล.ต.ต. สุรศักดิ์ เลาพิบูลย์กุล ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำ สอท.ฯ ได้ประสานนำชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิต ๕ รายกลับมาพิสูจน์ DNA ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเพื่อตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูญหายคนไทยหรือไม่ คาดว่ารอผลการพิสูจน์ในไม่ช้านี้
  • กรณีการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สอท. อยู่ในระหว่างการติดตามและการประสานงาน
  • ในส่วนของโครงสร้างอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ทางการกัมพูชาประสานงานกับ ผวจ.สระแก้ว เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่เกิดเหตุและประเมินความจำเป็นในการรื้อถอนอาคาร รวมทั้งความเสี่ยงต่อคนในพื้นที่ ทั้งนี้ไทยและกัมพูชามีความร่วมมือในด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ชายแดน ซึ่ง จ.สระแก้ว จะส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว

 

๒. การสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028-Phuket ของไทย

  • ประเทศไทยเสนอ จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 - Phuket, Thailand ระหว่างวันที่ ๒๑ มี.ค. - ๒๐ มิ.ย. ๒๕๗๑ ขณะนี้มี ๕ ประเทศที่สมัครเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ ไทย สหรัฐฯ เซอร์เบีย สเปน และอาร์เจนตินา การตัดสินจะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. ๒๕๖๖ โดยจะเป็นการลงคะแนนเสียงของสมาชิกองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions-BIE) จำนวน ๑๗๐ ประเทศ
  • ประเทศไทยจะจัดงานเปิดตัวการสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงานฯ การบรรยายสรุปเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 – Phuket และงานเลี้ยงรับรอง Local to Global: Phuket Expo – 2028 ในวันที่ ๑๒ ม.ค. ๒๕๖๖ โดยมี รนรม./รมว.กต. เป็นประธาน และจะเชิญคณะทูตและกงสุลกิตติมศักดิ์ต่างประเทศ/ปทท. หอการค้าต่างประเทศ และหอการค้าร่วมต่างประเทศ/ปทท. และสื่อมวลชน
    (สื่อมวลชนที่สนใจร่วมการบรรยายสรุปฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/awtxn5BvU4B4k2eq7)
  • แนวคิดหลักในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ คือ “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity” ชู ๓ จุดแข็ง ได้แก่ (๑) การเป็น Expo แรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ (๒) การขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่มี People - Planet – Prosperity (คน-โลก-ความเจริญมั่งคั่ง) เป็นจุดเน้น และ (๓) การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ และจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกของไทยและ จ.ภูเก็ต
  • การจัดงาน Expo วาระพิเศษ (Specialised Expo) จะสำเร็จได้ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) รวมทั้ง จ.ภูเก็ต และประชาชนคนไทยทุกคนก็เป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่เฉพาะ จ.ภูเก็ต
  • การจัดงาน Expo 2028 – Phuket จะเป็นโอกาสให้ชุมชนและท้องถิ่นได้ผลักดันประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ก่อนการเป็นเจ้าภาพ อาทิ ในด้านประเด็นสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนไทยให้ความสำคัญกับการจัดการประชุม งานนิทรรศการระหว่างประเทศที่เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนและหวังทุกฝ่ายจะให้การสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานฯ ในครั้งนี้

 

๓. คำแนะนำคนไทยก่อนเดินทางไปแอฟริกาใต้

  • กต. ได้รับรายงานจาก สอท. ณ กรุงพริทอเรีย เกี่ยวกับกรณีอาชญากรรมและการลักพาตัว เรียกค่าไถ่ โดย สอท.ฯ ได้แจ้งคำแนะนำแก่คนไทยที่มีแผนจะเดินทางไปแอฟริกาใต้ ดังนี้
    • ขอให้ระวังเรื่องอาชญากรรมและการลักพาตัว
    • หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่เปลี่ยว/ ปลอดคน ชุมชนแออัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงพริทอเรีย นครโจฮันเนสเบิร์ก และเมืองเคปทาวน์
    • ไม่สวมใส่เครื่องประดับหรือสิ่งของมีค่าในที่สาธารณะ เก็บรักษาทรัพย์สินและเอกสารการเดินทางให้ปลอดภัย
    • ติดตามและปฏิบัติตามประกาศ คำเตือน หรือคำแนะนำของ สอท. ณ กรุงพริทอเรีย และหน่วยงานท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด
    • ทำประกันสุขภาพและประกันการเดินทางครอบคลุมช่วงที่อยู่ในแอฟริกาใต้
    • หากประสบเหตุตกทุกข์ได้ยาก หรือต้องการขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถติดต่อ สอท. ณ กรุงพริทอเรีย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ +๒๗ ๘๒ ๙๒๓ ๖๑๗๙ หรือ +๒๗ ๑๒ ๓๔๒ ๕๔๗๐ ต่อ ๑๐๔ และ ๑๑๑ หรือทางเฟซบุ๊ค Royal Thai Embassy in Pretoria

ถาม-ตอบ

  • ประเทศไทยกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขและเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางจากจีนอย่างไร ภายหลังจีนผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้า-ออก ในวันที่ ๘ ม.ค. ๒๕๖๖
    • หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดวางมาตรการและเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมากนิยมเดินทางมาไทยและมีผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการของไทยอย่างมาก
    • มาตรการผ่อนคลายของจีนไม่ได้หมายความว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณการว่าจะเดินทางมาประมาณ ๓ แสนคนในช่วงไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๖ ซึ่งหน่วยงานหรืออุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องควรเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว
    • มาตรการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อยู่บนหลักการดังนี้ (๑) ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ (๒) ไทยมีความเชื่อมั่นในขีดความสามารถด้านสาธารณสุข ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าในห้วง ๓ ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถรับมือกับโควิด-๑๙ ได้เป็นอย่างดี มีความพร้อมด้านระบบสาธารณสุข การฉีดวัคซีน ตลอดจนการปฏิบัติตัวของคนไทย อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์อย่างสม่ำเสมอ
    • ในขณะนี้ ยังรอการกำหนด/ประกาศมาตรการที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข อาทิ การสุ่มตรวจการติดเชื้อ การประกันสุขภาพ สถานที่รองรับการตรวจ RT-PCR ในกรณีประเทศ   ที่จะเดินทางกลับกำหนดให้มีการตรวจโควิด-๑๙ ก่อนการเดินทางกลับ
    • ไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ ในปี ๒๕๖๕ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยประมาณ ๑๑ ล้านคนเศษ เชื่อมั่นว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นในปี ๒๕๖๖
  • ความพร้อมและขอบเขตงานของกระทรวงการต่างประเทศในการรับผู้เดินทางจากจีน
    • กระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมมาโดยตลอด เห็นความสำคัญในเรื่องการท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวต่อประชาชนและเศรษฐกิจของไทย ตลอดช่วงโควิด-๑๙ ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ระบบการรองรับการตรวจลงตราปัจจุบันเป็นรูปแบบ E-visa ซึ่งทางกรมการกงสุล สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในจีน มีการเตรียมความพร้อมในประเด็นเหล่านี้ จากการประมาณการจำนวนผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทยในไตรมาสแรก น่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหาร จัดการได้

 

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://fb.watch/hTwpV87nLZ/

คลิปแถลงข่าว: ช่อง Youtube “MFA Thailand Channel”: https://www.youtube.com/user/mfathailand

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ