สรุปการแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น.
ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ และทาง Facebook/TIKTOK LIVE กต.
- การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ
- เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 กระทรวงฯ ได้จัดการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้แก่คณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริงของสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา รวมถึงจุดยืนของไทยให้นานาประเทศได้รับทราบ โดยมีคณะทูตจาก 75 ประเทศ 1 องค์กร (สหภาพยุโรป) และ 16 องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วม โดยการบรรยายสรุปฯ ได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีมาก รวมถึงทำให้มิตรประเทศเข้าใจถึงจุดยืนของไทยมากขึ้น
- ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่ได้เป็นสิ่งที่ไทยประสงค์ ไทยได้เรียกร้องให้กัมพูชาเจรจาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกันด้วยความจริงใจและสุจริตใจ เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นมิตรประเทศและประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายถูกละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ไทยจึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติและตอบโต้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยไทยได้ตอบโต้อย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนต่อภัยคุกคาม ทั้งนี้ ไทยมีเจตนารมณ์ที่จะให้กัมพูชากลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกันโดยสันติวิธี
- ในประเด็นสงครามข่าวสารและการเผยแพร่ข่าวปลอมและข่าวบิดเบือน กระทรวงฯ ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนติดตามข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวังและใช้วิจารณญาณ ล่าสุด กัมพูชาได้เผยแพร่ข่าวเรื่องแผนการลอบสังหารผู้นำกัมพูชาของฝ่ายไทย ซึ่งกระทรวงฯ ได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าวในทันที
- สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลไกทางการทูตทั้งทวิภาคีและพหุภาคีสื่อสารกับประชาชนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาคมโลก หลังจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้กำหนดให้มีการประชุมออนไลน์กับสถานเอกอัครราชทูตที่สำคัญในต่างประเทศ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2568 นี้ เพื่อมอบหมายการสื่อสารเชิงรุกในประเด็นดังกล่าวอย่างเป็นเอกภาพ
- เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมงานเสวนาและพบหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (The Foreign Correspondents' Club of Thailand: FCCT) เกี่ยวกับสถานการณ์ไทย - กัมพูชา เพื่อใช้พื้นที่ดังกล่าวชี้แจงจุดยืนของไทยและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสื่อมวลชนต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมีสภาวะที่ข่าวปลอมแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง
- วันนี้ (5 สิงหาคม 2568) รัฐมนตรีฯ ได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการด้านการค้าและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ถึงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการหากลไกร่วมกันเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และส่งเสริมการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ของระบบห่วงโซ่อุปทานเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
- การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเชลยศึกของผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)
- รัฐบาลไทยได้ใช้มาตรการเชิงรุกในเรื่องนี้มาโดยตลอด หลังจากที่ไทยได้ประสบผลเชิงลบจากการที่มีทหารกัมพูชาตกค้างอยู่ในพื้นที่ที่มีการปะทะกัน โดยกระทรวงฯ ได้ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเจนีวาติดต่อให้คณะผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เดินทางมาประเทศไทย เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของทหารกัมพูชา ซึ่งแสดงให้เห็นความจริงใจและเปิดกว้าง และวันนี้ (5 สิงหาคม 2568) คณะผู้แทน ICRC ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของทหาร ทั้งนี้ ไทยได้ส่งตัวเชลยศึกชาวกัมพูชา 2 คน กลับกัมพูชาไปแล้วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ และให้การดูแลทหารกัมพูชาที่เหลือตามขั้นตอนสากลอย่างเคร่งครัด ตามหลักมนุษยธรรมภายใต้อนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายระหว่างประเทศ
- อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 มีข้อบทที่อนุญาตให้ปล่อยตัวเชลยศึกได้เมื่อสภาวะการขัดกันทางอาวุธสิ้นสุดลง ไม่ใช่แค่การหยุดยิง ไทยจึงมีสิทธิที่จะควบคุมตัวเชลยศึกไว้ เนื่องจากไทยยังไม่มีความมั่นใจว่า เชลยศึกจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่เป็นปรปักษ์กับไทย จึงถือว่าไทยดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ
- นอกจากทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวแล้ว ยังมีทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากการปะทะในพื้นที่ชายแดนและยังไม่ได้รับการเก็บร่างกลับไปกัมพูชาอีกจำนวนมาก ในการนี้ ฝ่ายไทยจึงขอให้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาเก็บร่างนายทหารเหล่านี้กลับคืนสู่ครอบครัว เพื่อแสดงความให้เกียรติและศักดิ์ศรีแก่ทหารทุกนาย รวมทั้งเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองฝั่ง
- การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป
- วันนี้ (5 สิงหาคม 2568) เป็นวันที่สองของการประชุมฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ซึ่งเป้าหมายที่ไทยต้องการเห็น คือ การหยุดยิงถาวรและมีกลไกในการตรวจสอบที่มีขั้นตอนในการหยุดยิงที่โปร่งใสและเป็นที่ยอมรับตามที่ได้มีการหารือระหว่างแม่ทัพในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ การเจรจาทวิภาคีดังกล่าวเป็นการเจรจาสองฝ่ายระหว่างไทยกับกัมพูชา ภายใต้การอำนวยความสะดวกของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ผู้สนับสนุนและสังเกตการณ์ในการเจรจาด้วย ซึ่งกองทัพไทยและกระทรวงกลาโหมเป็นกลไกหลักในการหารือเพื่อให้มีการหยุดยิงที่ถาวรและเข้าใจกันทุกฝ่าย
- เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียได้โทรศัพท์เชิญรัฐมนตรีฯ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ฝ่าย ได้แก่ ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งรัฐมนตรีฯ ได้แจ้งความยินดีที่จะหารือและขอบคุณมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่เห็นว่า กลไกการประชุม GBC ขณะนี้มีความสำคัญที่สุดและประสงค์ที่จะเห็นการทำงานภายใต้กลไกทวิภาคี GBC ดำเนินการให้ได้มากที่สุดและตกลงกันได้ ก่อนที่จะหารือในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีฯ มาเลเซียเข้าใจและเห็นพ้องกับความเห็นของไทย นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้แจ้งข้อห่วงกังวลของไทยต่อเรื่องการใช้สงครามข่าวสารของกัมพูชาและขอให้มาเลเซียช่วยหาทางย้ำกับกัมพูชาให้ลดทอนหรือยุติการใช้สงครามข่าวสาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทั้งยังส่งผลกระทบในทางลบต่อความพยายามคลี่คลายสถานการณ์และกระบวนการ GBC
สามารถรับฟังการแถลงข่าวย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/1EZkC4LhT7/?mibextid=wwXIfr
* * * * *