คำแปลถ้อยแถลง ของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในการประชุมระหว่างประเทศระดับสูงของสหประชาชาติว่าด้วยการยุติปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติ และการดำเนินการตามหลักการสองรัฐ

คำแปลถ้อยแถลง ของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในการประชุมระหว่างประเทศระดับสูงของสหประชาชาติว่าด้วยการยุติปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติ และการดำเนินการตามหลักการสองรัฐ

วันที่นำเข้าข้อมูล 31 ก.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 31 ก.ค. 2568

| 167 view

- คำแปล -
ถ้อยแถลง
ของ
นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์

เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
ในการประชุมระหว่างประเทศระดับสูงของสหประชาชาติว่าด้วยการยุติปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติ

และการดำเนินการตามหลักการสองรัฐ

วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก

 

 

ท่านประธานร่วม

  1. ประเทศไทยขอแสดงความชื่นชมต่อความพยายามร่วมกันและความมุ่งมั่นของท่านในการจัดการประชุมครั้งนี้ เพื่อยืนยันเจตจำนงทางการเมืองและความมุ่งมั่นที่เรามีร่วมกันต่อสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาคตะวันออกกลาง

 

  1. การประชุมที่รอคอยมานานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างยุติธรรม ยั่งยืน และครอบคลุม ผ่านการดำเนินการตามหลักการสองรัฐ (two-State solution) โดยสันติวิธี

 

ท่านประธานร่วม

  1. เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่มีผู้แทนรัฐสมาชิกหนึ่งหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา แม้ว่าผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะนำประเด็นทวิภาคีดังกล่าวเข้าสู่เวทีที่สำคัญแห่งนี้ แต่ก็จำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงโดยสังเขปเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

 

  1. เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ได้มีการตกลงหยุดยิง ซึ่งเป็นผลจากการประสานงานโดยคนกลาง (good offices) โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน อย่างไรก็ดี ไม่นานหลังจากที่การหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม ประเทศเพื่อนบ้านของเราประเทศหนึ่งกลับเริ่มยิงโจมตีข้ามพรมแดนและล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของประเทศไทยอีก ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง

 

  1. ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านของเราดังกล่าวปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคีที่มีอยู่ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือบิดเบือน และเข้าร่วมการเจรจาด้วยความสุจริตใจ

 

ท่านประธานร่วม

  1. สถานการณ์เลวร้ายในกาซา กอปรกับการสู้รบที่ดำเนินอยู่ ความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรม และการพลัดถิ่นอย่างกว้างขวาง รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางในวงกว้าง ล้วนชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องรื้อฟื้นการเจรจาและความพยายามเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคง

 

กระผมขอย้ำประเด็นสำคัญ ดังนี้

 

  1. ประการแรก ประเทศไทยขอยืนยันการสนับสนุนต่อหลักการสองรัฐ (two-State solution) ในฐานะที่เป็นหนทางเดียวที่เป็นไปได้ที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน โดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและข้อมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ ซึ่งมีรัฐอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคง

 

  1. แนวทางที่ครอบคลุมเป็นสิ่งจำเป็น ประเทศไทยสนับสนุนทุกความพยายามของทั้งสหประชาชาติ หุ้นส่วนระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสันนิบาตอาหรับ (League of Arab) องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation หรือ OIC) และประเทศต่าง ๆ ที่รักสันติภาพ เพื่อส่งเสริมการเจรจาที่มีความหมายและสร้างเงื่อนไขสำหรับสันติภาพ โดยจะต้องฟื้นฟูความไว้วางใจ ผ่านมาตรการสร้างความเชื่อมั่น การมีปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ และการทูตที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยตอบสนองต่อความกังวลและความปรารถนาของทุกฝ่าย

 

  1. ประการที่สอง เรายังคงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่ยั่งยืน และการปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข เมื่อคำนึงถึงว่าชาวไทยเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เราจึงได้เห็นผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่ขยายไปไกลกว่าภูมิภาคด้วยตัวของเราเอง ฉะนั้น สันติภาพในตะวันออกกลางจึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราทุกคน

 

  1. ประการที่สาม การคุ้มครองพลเรือนยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของเรา เราสนับสนุนการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างทันที ปลอดภัย และไม่ถูกขัดขวาง โดยสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

 

ประธานร่วม

  1. ในวันนี้ ขอให้เรายืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะยุติความขัดแย้งนี้อย่างถาวร ผ่านการเจรจาที่สร้างสรรค์และการใช้แนวทางแก้ไขที่มุ่งเน้นการปฏิบัติ ขออย่าให้ประวัติศาสตร์จดจำเราจากการเพิกเฉย แต่จดจำความกล้าหาญของเราในการดำเนินการที่เด็ดขาดเพื่อแสวงหาสันติภาพเหนือความขัดแย้ง

 

*******************