การดำเนินการของไทยภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) ต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

การดำเนินการของไทยภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) ต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 ก.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 ก.ค. 2568

| 54 view

ตามที่เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุการณ์ กองกำลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลขณะที่ปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติ ในบริเวณช่องบก และช่องอานม้า จ. อุบลราชธานี ส่งผลให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ และทหารจำนวน 2 นาย ทุพพลภาพถาวร ซึ่งภายหลังการพิสูจน์ทราบ พบว่า เป็นทุ่นระเบิดที่มีการวางใหม่ในพื้นที่ที่มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเสร็จสิ้นไปแล้ว และเป็นทุ่นระเบิดประเภท PMN-2 ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่กองทัพกัมพูชามีไว้ครอบครอง นั้น

 

กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือจำนวนสองฉบับ ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 (ค.ศ. 2025) และวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 (ค.ศ. 2025) ถึงประธานการประชุมรัฐภาคีครั้งที่ 22 ของกรอบอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรืออนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นรัฐภาคี เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงและแจ้งการละเมิดของกัมพูชาต่อพันธกรณีตามข้อ 1 ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งระบุห้ามรัฐภาคีใช้หรือสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการละเมิดอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และขอให้ประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบ

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งการละเมิดของกัมพูชาต่ออนุสัญญาออตตาวา  และขอรับความชัดเจน (request for clarification) จากฝ่ายกัมพูชา ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการใช้กลไกลตามข้อ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาฯ ซึ่งระบุว่า รัฐภาคีสามารถขอความชัดเจนและขอให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ ของอีกรัฐสมาชิกหนึ่งผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ

 

อนึ่ง ปัจจุบัน อนุสัญญาออตตาวามีรัฐภาคี 165 ประเทศ โดยไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เมื่อปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะออกเฉียงใต้ที่เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ขณะที่กัมพูชาเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เมื่อปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ที่ผ่านมา ไทยได้ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังอาวุธหมดสิ้นในปี 2546 และได้ทำลายทุ่นระเบิดส่วนที่เก็บไว้เพื่อการวิจัยและอบรมหมดสิ้นในปี 2562 รวมทั้งได้เก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ปนเปื้อนเสร็จสิ้นแล้วกว่าร้อยละ 99 โดยพื้นที่ปนเปื้อนคงเหลืออยู่ในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ ปัจจุบัน ไทยรับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการการอนุวัติการตามพันธกรณีข้อ 5 ของอนุสัญญาฯ ซึ่งมีอาณัติในการเร่งรัดให้รัฐภาคีเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้หมดสิ้นไปจากในพื้นที่ปนเปื้อนในอาณาเขตหรือเขตควบคุมของตน