ปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 หัวข้อ “การธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามร่วมสมัย” โดย นางมีรยานา สปอลยาริช เอ็กเกอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ

ปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 หัวข้อ “การธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามร่วมสมัย” โดย นางมีรยานา สปอลยาริช เอ็กเกอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ส.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 ส.ค. 2568

| 209 view
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงฟังปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ในวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568 ณ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและสภากาชาดไทยได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยในปีนี้ ได้รับเกียรติจากนางมีรยานา สปอลยาริช เอ็กเกอร์ ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) มาแสดงปาฐกถาในหัวข้อ “การธำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษย์ในสงครามร่วมสมัย”
 
นางมีรยานาฯ เข้ารับตำแหน่งประธาน ICRC ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 โดยก่อนหน้านี้ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ ผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุดโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) และผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคยุโรปและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชของ UNDP ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ทั้งนี้ นางมีรยานาฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์โดดเด่นในเวทีพหุภาคี และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและหัวหน้ากรมสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ สมาพันธรัฐสวิส นอกจากนี้ นางมีรยานาฯ ยังได้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและภารกิจสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ในองค์การสหประชาชาติ รวมทั้งเวทีการประชุมระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมด้วย
 
ปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศซึ่งรวมถึงกฎเกณฑ์และการจำกัดขอบเขตของความรุนแรงของการขัดกันทางอาวุธพร้อมเน้นย้ำการให้ความคุ้มครองผู้ที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ตลอดจนบทบาทและภารกิจของกาชาดสากลต่อสาธารณชน โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวมาแสดงปาฐกถา ตลอดจนให้ข้อคิดเห็นต่อการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมในประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจทั้งในบริบทของไทยและนานาชาติ
 
โดยปาฐกถาฯ ครั้งที่ 11 นี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถาไม่ต่ำกว่า 300 คน ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านมนุษยธรรมของไทย คณะทูต นายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ องค์การระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา นักวิชาการ และสื่อมวลชน ซึ่งจะได้รับฟังประสบการณ์การทำงานที่ท้าทายของนางมีรยานาฯ อันเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศไทยเดินหน้าสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างแข็งขันต่อไป
 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ