รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย และเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - อินโดนีเซียครั้งที่ 10

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย และเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - อินโดนีเซียครั้งที่ 10

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 พ.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 3 พ.ค. 2568

| 933 view

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับนายซูกีโยโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกตามคำเชิญของรัฐมนตรีฯ ในโอกาสเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - อินโดนีเซีย ในปี 2568

รัฐมนตรีฯ ทั้งสองฝ่ายได้หารือทวิภาคีและเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - อินโดนีเซีย (Joint Commission Meeting: JC) ครั้งที่ 10 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศเข้าร่วมเพื่อติดตามพัฒนาการและหารือเกี่ยวกับทิศทางความร่วมมือในอนาคต

ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงมิตรภาพอันยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศและได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้นี้

ทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มความร่วมมือเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะขบวนการหลอกลวงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการค้ายาเสพติด การต่อต้านภัยคุกคามรูปแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้ายและความมั่นคงทางไซเบอร์ นอกจากนี้ จะมีการหารือกันเรื่องแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายใต้สภาวะความไม่แน่นอนของตลาดโลก โดยจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านประมง และการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงอาหาร ความมั่นคงพลังงาน และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวผ่านการเพิ่มเส้นทางบินระหว่างกัน และการท่องเที่ยวทางเรือสำราญและเรือยอร์ช นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้ขอให้ฝ่ายอินโดนีเซียคุ้มครองและอำนวยความสะดวกนักลงทุนไทยในอินโดนีเซียด้วย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือด้านการศึกษา สาธารณสุขวัฒนธรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน

รัฐมนตรีฯ ของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่มีความสนใจร่วมกัน อาทิ บทบาทสำคัญของอาเซียนในประเด็นเมียนมา การขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายในอาเซียนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาคท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ