รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลอย่างเป็นทางการ

ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๕

                     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๖ – ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ซึ่งนับเป็นการเยือนบราซิลอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการฯ การเยือนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่ง     ของนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา ทั้งนี้บราซิลเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๖ ของโลก และ  มีประชากรกว่า ๒๐๐ ล้านคน รวมทั้งมีบทบาทที่โดดเด่นในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ การเยือนครั้งนี้จึงถือเป็น      การกระชับความสัมพันธ์กับบราซิลอย่างรอบด้าน รวมถึงการร่วมมือระหว่างกันต่อไปในอนาคตด้วย

                     ระหว่างการเยือนรัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบหารือกับนายอันโตนิโอ เด อะกีอาร์ ปาตริออตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบราซิล ณ กรุงบราซิเลีย เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๕ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ได้แก่ การพัฒนาให้ไทยและบราซิลเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันในอนาคต และลู่ทางความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งหารือให้มีการส่งเสริมการค้าระหว่างกันโดยการจัดตั้งคณะทำงานส่งเสริมการค้า ทั้งนี้ ปัจจุบันบราซิลเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในลาตินอเมริกา โดยปี ๒๕๕๔ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง ๔.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และฝ่ายบราซิลได้ย้ำถึงโอกาสในการลงทุนในบราซิล เนื่องจากบราซิลจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก และการแข่งขันโอลิมปิก ในปี ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๙ ตามลำดับ สำหรับในความร่วมมือด้านอื่น ๆ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะร่วมมือกันในสาขาที่มีศักยภาพ อาทิ ด้านพลังงานทดแทน ด้านกีฬาและด้านวิชาการ ซึ่งจะครอบคลุมถึงความร่วมมือทางวิชาการไตรภาคีในประเทศที่สามด้วย พร้อมนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ย้ำถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในฐานะะศูนย์กลางและประตูสู่อาเซียน รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์ในภูมิภาค

                                     ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ร่วมลงนามกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบราซิล ในบันทึกความเข้าใจ ๒ ฉบับ คือ

                 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทางการเมืองและประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน และบันทึกความเข้าใจสำหรับความร่วมมือทาง

                วิชาการไตรภาคี