เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เยี่ยมคารวะผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอิยิปต์

เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เยี่ยมคารวะผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอิยิปต์

วันที่นำเข้าข้อมูล 4 มิ.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 1,280 view

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2556 นายชลิต มานิตยกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้เข้าเยี่ยมคารวะ Sheikh Ahmed El Tayeb ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามของอิยิปต์ ( Grand Imam Sheik of Al-Azhar) ร่วมกับคณะทูตอาเซียนประจำอิยิปต์อีก 6 ประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการดูแลนักศึกษาที่มาจากกลุ่มประเทศอาเซียนด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักศึกษาเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่กำลังศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร จำนวนกว่า 2 หมื่นคน เนื่องจากปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นมากภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอียิปต์ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามได้แสดงความห่วงใยและเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการร่วมระหว่างสถานเอกอัครราชทูตอาเซียนกับมหาวิทยาลัย อัล อัซฮัล เพื่อให้ความช่วยเหลือนักศึกษา รวมทั้งการติดตามคดีและเพื่อให้เป็นที่พึ่งพิงแก่นักศึกษาที่ประสบปัญหา นอกจากนั้น ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามฯ รับจะทำข้อร้องเรียนของคณะทูตอาเซียนแจ้งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทยอิยิปต์ เพื่อร่วมกันหามาตรการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาอาเซียนต่อไป

ในโอกาสเดียวกันเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทแก่ผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการดำเนินการหรือกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร โดย Grand Imam แจ้งว่าจะนำเงินดังกล่าวไปสมทบกับกองทุนที่ได้จัดตั้งไว้สำหรับให้การสนับสนุนการศึกษาและกิจกรรมต่างๆ ของ นักศึกษาไทย

ตั้งแต่ปี 2550 ไทยได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้มหาวิทยาลัยอัล อัซฮัรอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ กับฝ่ายไทย และเพื่อแสดงความขอบคุณในไมตรีจิตของมหาวิทยาลัยอัล ฮัซฮัร ที่ได้ให้การศึกษาเยาวชนไทยมุสลิมมายาวนาน จากที่เคยมีนักศึกษาไม่ถึง 100 คน จนปัจจุบันที่มีนักศึกษาไทยกว่า 2,500 คน ทั้งนี้ประโยชน์ที่ชัดเจนจากการบริจาคเงินและก่อตั้งกองทุนช่วยเหลือนักศึกษาไทยดังกล่าว นอกจากทำให้นักศึกษาไทยมีกองทุนช่วยเหลือยามฉุกเฉินแล้ว ยังทำให้ไทยเป็นประเทศเดียวในมหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ที่นักศึกษาได้รับการลดค่าเรียนภาษาอาหรับพื้นฐานลงร้อยละ 50 ในขณะที่ประเทศอื่นๆ หรือประเทศเพื่อนบ้านของไทยต้องจ่ายเต็มราคา

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ