รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออก ระหว่างการประชุม FEALAC FMM VI

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออก ระหว่างการประชุม FEALAC FMM VI

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 มิ.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,669 view

เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากลาตินอเมริกาและเอเชียตะวัน ออก ในระหว่างการประชุม ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๖ ของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา โดยในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศนิการากัว อาร์เจนตินา กัวเตมาลา และเมียนมาร์ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

นิการากัว รัฐมนตรีว่าการฯ ได้หารือกับนายซามูเอล ซันโตส โลเปซ รมว. กต. นิการากัว ในประเด็นความร่วมมือทวิภาคี อาทิ การขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและความร่วมมือด้านวิชาการ ฝ่ายนิการากัว ตระหนักถึงบทบาทไทยในภูมิภาค และมีแผนที่จะเปิดสำนักงานในประเทศไทย

อาร์เจนตินา ระหว่างการหารือกับนายเอ็กตอร์ ติเมร์มัน รมว. กต. อาร์เจนตินา ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในโอกาสครบรอบ ๖๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปี ๒๐๑๕ โดยเน้นการขยายการค้าและการลงทุน รวมทั้งยินดีกับความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนา อาทิ การจัดหลักสูตรฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนการ สนับสนุนในเวทีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รมว. กต. อาร์เจนตินาแจ้งว่า ประธานาธิบดีของตนประสงค์จะเชิญ นรม. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยือนประเทศอาร์เจนตินาอย่างเป็นทางการ

กัวเตมาลา รัฐมนตรีว่าการฯ ได้หารือกับนายหลุยส์ แฟร์นันโด การ์เรรา กาสโตร รมช. กต. กัวเตมาลา ในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีและในเวทีระหว่างประเทศ อาทิ การจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านการพัฒนา และหลักการเศรษฐกิจพอเพียง และการขอเสียงสนับสนุนไทยเป็นสมาชิกไม่ถาวรในสมัชชาความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ สมัยปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ นอกจากนี้ กัวเตมาลายังสนใจที่จะตั้งสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค

เมียนมาร์ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้หารือกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รมว. กต. เมียนมาร์ ในประเด็นสำคัญ ๔ ประเด็น ได้แก่ ๑) การให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงญาในไทย โดยขอให้ฝ่ายเมียนมาร์เร่งดำเนินการเรื่องการส่งผู้เชี่ยวชาญ มาพิสูจน์สัญชาติชาวโรฮิงญาในไทย และการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพูดคุยหาทางแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง  ๒) การพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการเร่งจัดตั้ง SPV  ๓) การฉลองครบรอบ ๖๕ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เมียนมาร์ และ ๔) การเตรียมการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-เมียนมาร์ โดยเมียนมาร์จะเป็นเจ้าภาพในปีนี้

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ