สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้ดำเนินโครงการสัปดาห์ไทยในลัตเวีย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้ดำเนินโครงการสัปดาห์ไทยในลัตเวีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ส.ค. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 1,761 view
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้ดำเนินโครงการสัปดาห์ไทยในลัตเวีย ในระหว่างวันที่ 12- 18 สิงหาคม 2556 ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ดังนี้
 
1.       การจัดนิทรรศการพิเศษ “การแต่งกายของนาฏศิลป์ไทย”
 
     สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลร่วมมือกับ Latvian National Museum of Art ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของลัตเวีย  จัดนิทรรศการพิเศษ “การแต่งกายของนาฏศิลป์ไทย” ณ Riga Bourse Museum of Foreign Arts โดยได้นำชุดการแสดงจากโขนรามเกียรติ์ พร้อมหัวโขน 4 หัว  และชุดการแสดง 4 ภาคของไทยรวมทั้งสิ้น 12 ชุด ตั้งแสดงในระหว่างวันที่ 13-18 สิงหาคม 2556 
 
     เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556  เวลา 17.00-19.00 น. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้ร่วมกับ Latvian National Museum of Art  จัดงานเลี้ยงรับรองเปิดนิทรรศการโดยได้จัดงานเลี้ยงรับรองอาหารไทย  ซึ่งทางการลัตเวียได้มอบหมายให้นางอิเนสเซ่อ ไลซานเน่อ (Mrs. Inese Laizāne) ตำแหน่ง Parliamentary Secretary กระทรวงวัฒนธรรมลัตเวียเป็นแขกเกียรติยศ  สำหรับสุนทรพจน์เปิดงานนิทรรศการฯ สรุปได้ดังนี้
 
     - นางไดก้า อูเพอนีเซอ (Mrs. Daiga Upaniece) Director of Riga Bourse Museum of Foreign Artsได้กล่าวขอบคุณสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลที่มาจัดนิทรรศการฯ และ กิจกรรมอื่นๆ ในช่วง “สัปดาห์ไทยที่ลัตเวีย”  พร้อมกล่าวเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานฯ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วย (1) การบรรยายเรื่อง “Thailand-Land of Smiles” ในวันที่ 14 สิงหาคม 2556  เวลา 16.30 น.  (2) Workshop ระบายสีหน้ากากโขนสำหรับเด็ก ในวันที่ 15 และ 17 สิงหาคม 2556 เวลา 12.00-14.00 น. และ (3)  Workshop การสอนรำไทย ในวันที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 12.00-13.00 น. และ 16.00-17.00 น.
 
     - นายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูต กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลจัดกิจกรรมขึ้นในลัตเวีย  โดยแนวคิดในการ จัดกิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่  เอกอัครราชทูตได้เข้ายื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อนาย Andris Bērziņš   ประธานาธิบดีสาธารณรัฐลัตเวีย และพบว่ากรุงริก้าจะเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรม และศิลปะที่สวยงาม ตลอดจนมี ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน  การจัดนิทรรศการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดี ลดช่องว่างของ “การไม่รู้จักกันและกัน” ให้มากขึ้น (Narrow down the gap of information)  อีกทั้งเป็นการสร้างเสริม People Connectivity ซึ่งจะนำไปสู่การขยายความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ต่อไป  และในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ  ได้มอบหัวโขน จำนวน 4  หัว เพื่อตั้งแสดงเป็นการถาวร ณ Riga Bourse Museum of Foreign Arts สืบไป
 
     - นางมาร่า ลาเซ่  (Mrs. Mãra Lãce) Director of Museum ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความคิดริเริ่มใน การจัดนิทรรศการฯ ของไทยครั้งนี้ และหวังว่าสถานเอกอัครราชทูตฯ และพิพิธภัณฑ์ฯ จะได้มีความร่วมมือกันอีกในอนาคต และในนามของพิพิธภัณฑ์ฯ ขอขอบคุณที่สถานเอกอัครราชทูตฯ มอบหัวโขนจำนวน 4 หัว ในครั้งนี้
 
     - นางอิเนสเซ่อ ไลซานเน่อ (Mrs. Inese Laizāne) Parliamentary Secretary กระทรวงวัฒนธรรมลัตเวียกล่าวเป็นภาษาไทยในช่วงต้นแสดงความยินดีที่ได้รับมอบหมายให้มาเป็นแขกเกียรติยศในงานครั้งนี้ และขอขอบคุณความคิดริเริ่มของเอกอัครราชทูตซึ่งส่งผลให้งานนิทรรศการฯ มีผลเป็นรูปธรรม พร้อมกล่าวว่าโดยที่วันเปิดนิทรรศการตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงขอใช้โอกาสนี้กล่าวถวายพระพรชัยมงคลด้วย
 
     หลังจากสุนทรพจน์ เอกอัครราชทูตได้เชิญนางไลซานเน่อตัดริบบิ้นเปิดงานนิทรรศการฯ และนำแขกผู้มีเกียรติเข้าชมงานนิทรรศการ  พร้อมทำพิธีมอบหัวโขน จำนวน 4 หัวแก่นางลาเซ่  ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ  โดยมีนางไลซานเน่อร่วมรับมอบและเป็นสักขีพยาน  หลังจากนั้น จึงเริ่มงานเลี้ยงรับรองพร้อมการแสดงนาฏศิลป์ไทย ในช่วงท้ายของงานได้มีการจับสลากมอบบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางกรุงโคเปนเฮเกน-กรุงเทพฯ พร้อมที่พักมูลค่า 200 LAT ซึ่งสนับสนุนของรางวัลโดยบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดังมีภาพพิธีเปิดงานนิทรรศการปรากฏตามเอกสารแนบ 2 ทั้งนี้ ในระหว่างการจัดงานได้มีการแจกเอกสารเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และสินค้าไทยด้วย
 
     ผู้ที่เข้าร่วมงานซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งภาครัฐ และเอกชน  คณะทูตานุทูตต่างๆ กลุ่ม Friends of Museum และสื่อมวลชนได้แสดงความสนใจกับนิทรรศการฯ แสดงความชื่นชมกับอาหารไทย และ  การแสดงทางนาฏศิลป์ไทยโดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากรเป็นอย่างมาก  ซึ่งในการแสดงชุดสุดท้าย (finale) เป็นการแสดงทางระบำเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ลัตเวียได้รับเสียงปรบมืออย่างยาวนาน และได้รับความชื่นชมว่าเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ฯ ได้กล่าวด้วยว่า ได้รับการประเมินความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานซึ่งต่างมีความเห็นพ้องว่า การจัดนิทรรศการฯ และการจัดพิธีเปิดครั้งนี้เป็นงานที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
 
     ในส่วนของการจัด Workshop ระบายสีภาพหน้ากากโขนสำหรับเด็กในวันที่ 15 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นการจัด workshop วันแรกนั้น มีเด็กชาวลัตเวียเข้าร่วม 15 คน และเด็กที่เข้าร่วมกลุ่มหนึ่งได้ยกเลิกการเข้าร่วม workshop อื่นที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่ออยู่ทำ workshop ของไทยต่อ  ทั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้แจ้งให้ทราบด้วยว่า มียอดจองการเข้าร่วม workshop ระบายสีหน้ากากโขนสำหรับเด็ก ในวันที่ 17 สิงหาคม 2556 เวลา 12.00-14.00 น. และ  Workshop การสอนรำไทย   ในวันที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 12.00-13.00 น. และ 16.00-17.00 น. แล้วจำนวนมากกว่าที่คาดการไว้
 
2. การจัดงานสัปดาห์อาหารไทย ณ โรงแรม Radisson Blu Latvija  ในระหว่างวันที่ 13-17 สิงหาคม 2556
 
     เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เวลา 19.00 น. นายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูต  และนาย Ronald Smithjes, District Manager ของโรงแรม Radisson Blu ในภูมิภาคบอลติค และ GM ของโรงแรม Radisson Blu Latvija ได้ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดงานเทศกาลอาหารไทย  ซึ่งการจัดงานเทศกาลในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สอท. และโรงแรม Radisson Blu Latvija มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ และสร้างความนิยมชมชอบอาหารไทยในลัตเวีย และในระหว่างการจัดเทศกาลอาหารไทยได้มีการแสดงนาฏศิลป์ไทยโดยคณะนาฏศิลป์จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากรด้วย ทั้งนี้ ในระหว่างการจัดงานได้มีการแจกเอกสารเพื่อ ปชส. การท่องเที่ยว และสินค้าไทยด้วยจากผลตอบรับของการจองโต๊ะใน 2 วันแรก (12 และ13 สิงหาคม 2556) พบว่ามียอดจองเข้าร่วมงานมากกว่าที่ทางโรงแรมฯ ได้ประมาณการไว้ ทั้งนี้ นาย Smithjes กล่าวว่า จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางโรงแรมฯ ยินดี และพร้อมที่จะร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตในการดำเนินการประชาสัมพันธ์อาหารและสินค้าไทยในลัตเวีย และ/หรือกลุ่มประเทศบอลติคในอนาคต
 
     นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดให้คณะนาฎศิลป์จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากรเปิดการแสดงในเวทีกลางแจ้ง ณ เวที Esplanade ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองในวันที่ 16 สิงหาคม 2556 เวลา 13.00-14.00 น. ด้วย ซึ่งการแสดงบนเวทีกลางแจ้งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล Riga 2014 ซึ่งเชิญศิลปินลัตเวียและประเทศต่างๆ มาเปิดการแสดงโดยไม่เก็บค่าเข้าชม เพื่อสร้างความตื่นตัวก่อนการเป็น European Capital of Culture ในปี 2557

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ