เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้ต้อนรับคณะสื่อมวลชน และข้าราชการจากกรุงเทพฯ เข้าร่วมโครงการรักษาและส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยในญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ เพื่อรักษาและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ภายหลังที่ญี่ปุ่นประกาศมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวสำหรับการพำนักไม่เกิน ๑๕ วัน ให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย ซึ่งเป็นโครงการที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวจัดขึ้น

ในช่วงเช้า ผู้ร่วมโครงการได้รับฟังการบรรยายพิเศษจากนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ อัครราชทูต พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย อาทิ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการบินไทย ซึ่งร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกและ ประสบการณ์ที่พบเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงและประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวไทยที่เดินทาง เข้ามาในญี่ปุ่น โดย ออท. ธนาธิปฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้ให้ชาวไทยถึง ความสำคัญของการได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เรื่องการเตรียมตัวก่อนมาญี่ปุ่นที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวชาวไทย

หลังจากนั้นในช่วงบ่าย เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวได้นำคณะผู้เข้าร่วมโครงการเข้าพบหารือกับนายชิเงโตะ คุโบ (Shigeto KUBO) เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อรับฟังการบรรยาย สรุปเกี่ยวกับนโยบายและแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น รวมถึงข้อควรปฏิบัติของชาวไทยในการมา ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งนายคุโบฯ ได้กล่าวว่า อยากให้ชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และมีความรู้สึกที่ดีกับชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ทั้งสองประเทศได้เกิดการแลกเปลี่ยนทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน อย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันญี่ปุ่นได้เริ่มผลิตสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเป็นภาษาไทย เพื่อให้ข้อมูลที่เป็น ประโยชน์แก่ชาวไทยที่สนใจแล้ว

ภายหลังการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖มีคนไทยเดินทางมาญี่ปุ่นถึงกว่า ๓๐,๐๐๐ คน ซึ่งเพิ่มจากปี ๒๕๕๕ ถึง ๒ เท่า โครงการนี้จึงหวัง ที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องผ่านสื่อมวลชนและหน่วยราชการเกี่ยวกับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าญี่ปุ่น เพื่อให้การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาวไทยเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้องตามกฎหมายของญี่ปุ่น และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของไทยในประเทศญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้นต่อไป