เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 นายสุชาติ เลียงแสงทอง กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง พร้อมด้วยภรรยา และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้พบปะสนทนากับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยยูนนาน (Yunnan University) ได้แก่ นาย Lin Wenxun อธิการบดี นาย Xiao Xian รองอธิการบดี นาย Yu Xinli  ผู้อำนวยการแผนกความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และนาง Zheng Wei รองผู้อำนวยการฯ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และทำความรู้จักกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งเก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของยูนนาน เทียบเท่ากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของไทย

     ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยยูนนาน เปิดสอนระดับปริญญาตรี จำนวน 20 คณะ และระดับปริญญาโท 10 คณะ มีนักศึกษารวม ประมาณ 29,800 คน โดยทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน มีความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีนักศึกษาไทย จำนวน 112 คน ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญา และมีนักศึกษาไทย ที่มาศึกษาในโครงการแลกเปลี่ยนระยะสั้นเป็นประจำทุกปี

     เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 มหาวิทยาลัยยูนนานได้ร่วมมือกับสถาบันภาษาไทยสิรินธร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดตั้งศูนย์ทดสอบภาษาไทย ขึ้นเป็นแห่งแรกในมณฑลยูนนาน และเป็นแห่งที่ 4 ของจีน โดยศูนย์ดังกล่าวได้จัดการทดสอบสมรรถภาพทางภาษาไทย ปีละ 2-3 ครั้ง มีนักศึกษาจีนเข้ามาทดสอบ เฉลี่ย 100 กว่าคนต่อปี ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยยูนนาน มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของไทย รวม 18 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือเรื่องการจัดการเรียนการสอนร่วมกัน โดยมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะส่งนักศึกษาจีน ไปเรียนภาษาไทยและวิชาอื่นๆ ที่ประเทศไทย และหวังว่าจะได้อาจารย์ชาวไทยมาสอนภาษาไทยที่คุนหมิงเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจทั้งภาษาและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง 

     สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้ให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยยูนนาน ในการจัดตั้งศูนย์ไทยศึกษา (Thai Study Center) และได้บริจาคหนังสือภาษาไทยให้ทางศูนย์ไว้ใช้ประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง มีนโยบายส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยยูนนาน และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น  ซึ่งระหว่างการสนทนาในครั้งนี้ กงสุลใหญ่ สุชาติฯ ได้เสนอให้ทางมหาวิทยาลัยจัดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทย-จีน เพิ่มขึ้น โดยพิจารณาร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของไทย ในการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญา แบบ 2+2 (2 ปีในจีน และไปต่ออีก 2 ปีในไทย) หรือ 2+1 เป็นต้น อนึ่ง กงสุลใหญ่ฯ ได้ขอให้ทางมหาวิทยาลัยช่วยดูแลนักศึกษาไทย ให้ได้รับความเป็นธรรม และมีความเป็นอยู่ที่ดี