สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกลุ่มประเทศ Visegrad 4 (สาธารณรัฐสโลวัก สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี และสาธารณรัฐโปแลนด์) ซึ่งประกอบด้วย  สถานเอกอัครราชทูต  ณ กรุงเวียนนา (ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐสโลวัก) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก  สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ พร้อมด้วยสำนักงานผู้แทนไทยในต่างประเทศ (ทีมประเทศไทย) ได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลไทย (Thai Festival) ณ ศูนย์แสดงสินค้า INCHEBA Exhibition Center ณ กรุงบราติสลาวา สาธารณรัฐสโลวัก ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๗ เมษายน ๒๕๕๗

การจัดงานเทศกาลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมสินค้า อาหาร และผลไม้ไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศ Visegrad 4 และออสเตรีย โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย ๑) การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประเทศไทย พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ และการท่องเที่ยวของไทย ๒) การออกร้านโดยผู้ประกอบการจำนวน ๒๓ ร้าน เพื่อจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย สินค้าหัตถกรรม เครื่องประดับ สินค้าประดับตกแต่งบ้าน และสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ๓) การนำเสนอเผยแพร่อัตลักษณ์ไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงหุ่นเชิดโดยคณะหุ่นสายเสมา การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน และโขนชุดเล็ก  และ ๔) การแสดงดนตรีไทยร่วมสมัย โดยวง The Sound of Siam (โก้ มิสเตอร์แซกแมน) การสาธิตการปรุงอาหารไทย การหุงข้าวหอมมะลิไทย และการแกะสลักผักและผลไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยและการพบปะหารือทางธุรกิจ

ในโอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ และทรงมีพระดำรัสเปิดงานว่า การจัดงานเทศกาลไทยครั้งนี้เป็นการบูรณาการการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตไทยและทีมประเทศไทย ประจำประเทศ Visegrad 4 อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ “ครัวไทยสู่โลก” ตามนโยบายของรัฐบาลในการประชาสัมพันธ์อาหาร ผลไม้ และสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น (สินค้า OTOP) ทั้งนี้ มีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชนของสโลวัก รวมทั้งคณะทูตในกรุงบราติสลาวา ประมาณ ๑๕๐ คนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว