คณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทยผนึกกำลัง ชี้แจงการรักษามาตรฐานการผลิตสินค้าประมงไทยกับสมาพันธ์ผู้ซื้อสินค้าภาคพื้นยุโรปและ DG Trade และ DG Mare ของสหภาพยุโรป สร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อรักษาภาพลักษณ์ผู้ส่งออกสินค้าประมงอันดับต้นของโลก

เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ ผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมประมง กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ผนึกกำลังกับสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย เดินทางไปพบหารือกับภาครัฐและภาคเอกชน (สมาพันธ์ผู้ค้าส่ง) ของสหภาพยุโรป เพื่อนำเสนอข้อมูลและพัฒนาการในการดำเนินที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมงไทย ภายหลังจากสินค้าประมงไทยถูกโจมตีโดยสื่อมวลชนและองค์กรที่ไม่ใช่รัฐของต่างประเทศ ว่ามีการใช้แรงงานต่างด้าวเยี่ยงทาสในการทำประมง

สมาคมผู้ซื้อสินค้าประมงของยุโรป ซึ่งมีผู้บริหารหลักมาจาก สหราชอาณาจักร เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และประเทศยุโรปตะวันตก กล่าวยอมรับว่า ผู้บริโภคในยุโรปให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิตสินค้าในมิติต่างๆ ทั้งเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปจนถึงการให้ความเป็นธรรมแก่แรงงานตามหลักสิทธิมนุษยชน ดังนั้น สมาคมผู้ผลิตจึงมีเป้าหมายเดียวกับไทยในการรักษามาตรฐานและคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังชื่นชมที่ฝ่ายไทยมีความคืบหน้าในการดำเนินการไปมากโดยเฉพาะการออกมาตรการในเรื่องแรงงานในภาคประมงโดยเฉพาะ

หลังจากนั้น คณะของไทยได้เข้าพบคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า (Directorate General for Trade of the European Commission: DG TRADE) และคณะกรรมาธิการยุโรปด้านกิจการทางทะเลและประมง (Directorate-General for Maritime Affairs and Fisheries: DG-MARE) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง เช่น การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย  การตรวจเรือประมงและสถานที่ทำงาน  การพิจารณาคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างเร็ว ซึ่งฝ่ายสหภาพยุโรปซึ่งได้ติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยฝ่ายไทยมาอย่างใกล้ชิด ได้แสดงความพอใจที่ไทยมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีการำงานบูรณาการอย่างเป็นทีม  มีแผนดำเนินการที่ชัดเจนและมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม ซึ่งฝ่ายยุโรปย้ำว่า จะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของฝ่ายไทยต่อไป