เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ นายสุชาติ เลียงแสงทอง กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้เข้าร่วมงานเสวนานานาชาติ The Revival of the Southern Silk Road ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักข่าว Takungpao (ฮ่องกง) ประจำนครคุนหมิง สมาคมเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการส่งเสริมการค้าระหว่างมณฑลยูนนานกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ (Association for Economic Cooperation and Trade Promotion Between Yunnan, Southeast and South Asia: ECPTA) และธนาคารฟู่เตียน (ธนาคารท้องถิ่นของมณฑลยูนนาน) เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในมณฑลยูนนานเห็นความสำคัญและมีความกระตือรือล้นต่อการฟื้นฟูเส้นทางสายไหมแนวใต้ โดยมีมณฑลยูนนานเป็นจุดเชื่อมโยงจีนตอนใต้กับอาเซียนและเอเชียใต้บนเส้นทางดังกล่าว ตามนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล คณะผู้จัดงานฯ ได้เชิญคณะกงสุล ณ นครคุนหมิง นักวิชาการ นักธุรกิจซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคธนาคาร เข้าร่วมด้วย โดยคณะกงสุลประกอบด้วยกงสุลใหญ่สุชาติฯ กงสุลใหญ่เมียนมาร์ กงสุลใหญ่บังกลาเทศ และผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่ลาว ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานฯ ประมาณ ๒๐๐ คน
คณะผู้จัดงานฯ ได้เชิญกงสุลใหญ่สุชาติฯ เข้าร่วมงานฯ และร่วมเป็น keynote speaker โดยกงสุลใหญ่สุชาติฯ ได้กล่าวบรรยายเน้นเรื่องความเชื่อมโยงบนเส้นทาง R3A สรุปได้ว่า ใจความว่า “มณฑลยูนนานตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงกับกรอบความร่วมมือที่สำคัญ ๓ กรอบ ได้แก่ GMS BIMSTEC และ AEC ผ่านเส้นทาง R3A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมแนวใต้ โดยด่านบ่อหานของจีนกับด่านเชียงของของไทยห่างกันเพียง ๒๔๗ กิโลเมตร ซึ่งมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างสูงต่อมณฑลยูนนาน เนื่องจากเป็นเส้นทางคมนาคมที่มีความสมบูรณ์ทางกายภาพ และปัจจุบันได้เริ่มใช้ประโยชน์แล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมกันส่งเสริมให้เส้นทาง R3A เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการลดอุปสรรคที่เกิดขึ้นที่ด่านบ่อหานของจีนกับด่านบ่อเต็นของลาว”