๑) เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๓๐ น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน และนายณัฐพล ทรัพย์สินสุนทร เลขานุการเอกได้เข้าพบนาง O'LoveTauveve Jacobsen ข้าหลวงใหญ่นีอูเอ ประจำประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และได้หารือกันในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทย-นีอูเอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการต่อประเทศนีอูเอในด้านการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว การประมง (Fisheries) และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture) ประเทศนีอูเอ เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศหมู่เกาะของภูมิภาคแปซิฟิกใต้ มีจำนวนประชากรในประเทศเพียงประมาณ ๑,๒๐๐ คน แต่มีจำนวนประชากรที่ตั้งหลักแหล่งพักพิงอยู่ในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กว่า ๒๕,๐๐๐ คน มีรายได้ประชาชาติมาจากการจับสัตว์น้ำและได้รับงบประมาณความช่วยเหลือจากรัฐบาลนิวซีแลนด์เป็นจำนวนกว่า ๒๐ ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ต่อปี ถึงแม้ว่าจะมีประชากรจำนวนมากพำนักอาศัยและทำงานอยู่ในประเทศต่าง ๆ แต่ประเทศนีอูเอกลับไม่ได้รับประโยชน์จากการส่งเงินกลับประเทศ (Remittance) เนื่องจากการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของชาวนีอูเอกระทำได้ง่ายเพราะการได้รับสัญชาตินิวซีแลนด์มาตั้งแต่กำเนิด ทำให้ชาวนีอูเออพยพไปตั้งหลักแหล่งในประเทศอื่น ๆ ทั้งครอบครัวและขาดความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศตนเอง

 

            ๒) เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๐ น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน และนายณัฐพล ทรัพย์สินสุนทร เลขานุการเอกได้เข้าพบนาง Caroline Chretien ข้าหลวงใหญ่แคนาดา ประจำประเทศนิวซีแลนด์ ในฐานะคณบดีคณะทูตต่างประเทศในนิวซีแลนด์เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และได้หารือกันเกี่ยวกับกิจกรรมที่กระทำร่วมกันของคณะทูตต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดงานเลี้ยงรับรองให้กับนายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในโอกาสที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ออท มาริษฯ ได้ยืนยันความตั้งใจเดิมที่จะให้ใช้สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองดังกล่าว นอกจากนี้นาง Caroline Chretien ได้สรุปให้ฟังถึงสถานะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแคนาดา-นิวซีแลนด์ซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือของกลุ่ม 5 Eye-Nations ซึ่งเน้นไปในด้านการเมือง การแลกเปลี่ยนข่าวกรองและความมั่นคงทางทหาร สำหรับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าไม่ปรากฏว่ามีปริมาณมากนักเนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีผลผลิตทางด้านการเกษตรในประเภทเดียวกันได้แก่ผลิตภัณท์จากนม (Dairy Products) แคนาดาและนิวซีแลนด์ยังเป็นคู่แข่งระหว่างกันในด้านการศึกษาเพราะรายได้ประชาชาติของทั้งสองประเทศส่วนหนึ่งมาจากสินค้าบริการด้านการศึกษา ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างแคนาดา-นิวซีแลนด์อีกส่วนหนึ่งมาจากการเป็นประเทศสมาชิกเครือจักรภพอังกฤษ (Commonwealth)

 

            ๓) เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ออท. ณ กรุงเวลลิงตัน และนายพุทธพร อิ้วตกส้าน อัครราชทูตทีปรึกษาฯ ได้เข้าพบนาย Tekaotiki Matapo ข้าหลวงใหญ่ประเทศหมู่เกาะคุก (Cook Islands) ประจำประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และได้หารือกันในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศหมู่เกาะคุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว การสนับสนุนมาตรการและนโยบายด้านการค้า-การลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ความร่วมมือในด้านการประมงทั้งการประมงชายฝั่งและการประมงน้ำลึก รวมทั้งการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการเกษตรพืชสวน (Horticulture) ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศหมู่เกาะคุก ออท. มาริษฯ ได้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี ๓ ระดับได้แก่ รัฐบาล-ต่อ-รัฐบาล, ธุรกิจ-ต่อ-ธุรกิจ และประชาชน-ต่อ-ประชาชน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างประเทศทั้งสอง โดยมีภาครัฐเป็นผู้รักษาพลวัตรของการดำเนินความสัมพันธ์ทางการเมืองและอำนวยความสะดวกในด้านการบริหารจัดการเพื่อให้ภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจอย่างราบรื่นและนำไปสู่การสร้างความเข้าใจและผสมผสานความแตกต่างทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสังคมในระดับประชาชน ประเทศหมู่เกาะคุกเป็นประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิคใต้ มีจำนวนประชากรในประเทศต่ำกว่า ๑๕,๐๐๐ คน แต่มีประชากรที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กว่า ๖๐,๐๐๐ คน แม้จะมีขนาดเล็กแต่ประเทศหมู่เกาะคุกเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงประเทศหนึ่งมีรายได้ประชาชาติเฉลี่ยต่อคน (GDP per capita) กว่า ๑๖,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการค้าสินค้าบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว การจับสัตว์น้ำและจากงบประมาณความช่วยเหลือของรัฐบาลนิวซีแลนด์ในด้านการป้องกันประเทศ การศึกษาและการสาธารณสุข ประเทศหมู่เกาะคุกประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า ๑ แสนคนต่อปีหรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า ๑๐ เท่าของจำนวนประชากรของประเทศ ประเทศหมู่เกาะคุกมีความต้องการองค์ความรู้และการลงทุนในด้านการประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการเกษตรพืชสวนจากประเทศไทย และเช่นเดียวกันกับประเทศนีอูเอแม้จะมีประชากรที่พำนักอาศัยประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ประเทศหมู่เกาะคุกกลับไม่ได้รับประโยชน์จากการส่งเงินกลับประเทศ (Remittance) เนื่องจากการได้รับสัญชาตินิวซีแลนด์โดยกำเนิดทำให้สามารถเคลื่อนย้ายถิ่นฐานได้ง่ายขาดความใกล้ชิดกับประเทศของตนเอง

 

            ๔) เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๓๐ น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ออท ณ กรุงเวลลิงตัน ได้ให้การต้อนรับ น.ส. พรประไพ กาญจนรินทร์ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ และนาย Terence O'Brien อดีตเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ค เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกประเภทไม่ถาวรของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (Non-Permanent Member of United Nation Security Council) ที่จะมีขึ้นในปี ๒๐๑๖ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารืออธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นาย O'Brien ณ ร้านอาหาร "ไทยเช็ฟ" ด้วย