ในระหว่างการเยือน นายฮอร์ นัมฮง ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล และได้หารือประเด็นความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ กัมพูชาและคณะ ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา และโครงการศิลป์แผ่นดิน ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ กัมพูชาได้กล่าวเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาและความเป็นอยู่ของที่ดีขึ้นของชาวกัมพูชา โดยการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชาด้านการศึกษาที่วิทยาลัยกำปงสะปือ และด้านสาธารณสุขที่ จ. มณฑลคีรีและ จ. รัตนคีรี โดยฝ่ายกัมพูชาพร้อมถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จวางศิลาฤกษ์โรงเรียนพระราชทานแห่งที่สองที่จังหวัดกำปงสะปืออย่างสมพระเกียรติ
ในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ รองนายกรัฐมนตรีฯ กัมพูชาได้พบหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยประเด็นสำคัญของการหารือเพื่อขยายผลของทั้งสองประเทศ ได้แก่ การร่วมมือเพื่อจัดระเบียบแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่บริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณ จ. สระแก้วและ จ.ตราด เพื่อส่งเสริมการค้าและการพัฒนาชายแดนร่วมกัน การยกระดับจุดผ่านแดนถาวรต่าง ๆ อาทิ บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท รวมถึงประกาศเจตนารมณ์ร่วมเพื่อเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่บริเวณช่องอานม้า – อานเสะ และการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างกัน ซึ่งบรรยากาศของการหารือเป็นไปอย่างเป็นมิตร และทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการข้ามแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางในลักษณะไป-กลับและตามฤดูกาลในบริเวณชายแดนของอีกประเทศหนึ่งได้ อันจะเอื้อต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาแรงงานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยของทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบโบราณวัตถุจำนวน ๑๖ ชิ้น คืนแก่กัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันในการต่อต้านการเคลื่อนย้ายผิดกฎหมายและลักลอบข้ามแดนของศิลปวัตถุ และแสดงถึงไมตรีจิตที่ทั้งสองประเทศมีต่อกัน
การเยือนครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญในการเน้นย้ำสายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เป็นไปอย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่ ปี ๒๕๕๘ เป็นปีครบรอบ ๖๕ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและกัมพูชาตลอดปีนี้