การแข่งขันชกมวยทีวัน (T-One Muay Thai) ฉลองครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

การแข่งขันชกมวยทีวัน (T-One Muay Thai) ฉลองครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 ก.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 493 view
            เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.๐๐ – ๒๑.๓๐ น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมชมการแข่งขันชกมวยทีวัน มวยไทย ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่ศูนย์กีฬาโอลิมปิกแห่งชาติ (National Olympic Sports Center) กรุงปักกิ่ง               
 
            ก่อนการแข่งขัน ได้มีพิธีเปิด โดยผู้ร่วมจัดฝ่ายไทย ได้แก่ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ และผู้ร่วมจัด ฝ่ายจีน ได้แก่ ประธานศูนย์เผยแพร่วัฒนธรรมระหว่างประเทศของจีน (China International Cultural Communication Center – CICCC) และประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีน ทั่วโลก (WECBA) ขึ้นกล่าวรายงานตามลำดับ
 
            การแข่งขันแบ่งออกเป็น ๘ คู่ โดยฝ่ายหนึ่ง ได้แก่ นักชกชาวไทยและจีน และอีกฝ่าย เป็นนักชกนานาชาติ  สำหรับนักชกไทยที่มีชื่อเสียงที่มาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ได้แก่ บัวขาว ป. ประมุข และยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองชกบนสังเวียนเดียวกัน โดยมีผู้เข้าชมเกือบเต็มสนามกว่า ๔,๐๐๐ คน สำหรับผลการแข่งขันนั้น ทีมผสมไทย-จีน ชนะทีมนักชกนานาชาติ ด้วยคะแนน ๖ ต่อ ๒
 
            การแข่งขันครั้งนี้ มีสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเข้าชมและรายงานข่าวอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ มีการถ่ายทอดสดทั้งในไทย โดย ททบ. ๕  และในจีน โดย CCTV 5 (ซึ่งเป็นช่องกีฬาของสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลกลางของจีน) ด้วย สำหรับในจีน ได้มีการนำการแข่งขันฉายทางโทรทัศน์ให้ชาวจีนได้ชมอีกหลายครั้ง โดยรวมแล้ว มีผู้ชมเกือบ ๒๐๐ ล้านคนที่ได้รับชมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งนับว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูง 
 
            ภายหลังการแข่งขันชกมวย รองนายกรัฐมนตรียังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๔๐ ปี  การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จัดโดย CICCC ที่มหาศาลาประชาชน ในช่วงกลางวัน วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และโดย WECBA ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติปักกิ่ง ในช่วงเย็น วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งทั้งสองโอกาส เอกอัครราชทูตฯ ได้รับเชิญเข้าร่วมด้วย 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ