เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม – ๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ นางภัทราวรรณ เวชชศาสตร์ รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรเยือนกรุงวอชิงตัน มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา และนครนิวยอร์ก ภายใต้การดำเนินโครงการหุ้นส่วนเชิงสร้างสรรค์ไทย-สหรัฐฯ (Thai-U.S. Creative Partnership) สาขา Medical Device และสาขา Herbal Products โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วม อาทิ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ออโธพีเซีย จำกัด
การดำเนินโครงการฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพบหารือและแลกเปลี่ยนทัศนะกับหน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชน/สถาบันการศึกษา/ศูนย์วิจัยของสหรัฐฯ เกี่ยวกับกระบวนการคิด การจัดทำนโยบายและกฎระเบียบเชิงบูรณาการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม Medical Device และอุตสาหกรรม Herbal Products ของไทย แสวงหาความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ช่องทางการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการศึกษา/การวิจัยระหว่างกัน โดยคณะผู้แทนได้เข้าพบหารือกับผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ของสหรัฐฯ อาทิ Food and Drug Administration (FDA), National Institute of Health (NIH), U.S. National Arboretum, U.S. National Science Foundation (NSF), Duke Integrative Medicine Center, North Carolina Research Triangle Park, Columbia University, New York Office of Attorney General นอกจากนี้ คณะยังได้มีโอกาสพบหารือกับผู้แทนจากร้าน 5 Ave Thai Spa ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสปาไทยในสหรัฐฯ อีกด้วย
ทั้งนี้ สาขาสุขภาพและการวิจัยทางการแพทย์ (Health and Medical Research) เป็น ๑ ใน ๗สาขานำร่องภายใต้กรอบความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ไทย-สหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งไทยมีศักยภาพและความพร้อมด้านทรัพยากร รวมทั้งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางของทั้งสองอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่สหรัฐฯ มีความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม รวมทั้งสามารถเป็นตลาดขนาดใหญ่เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์จากทั้งสองอุตสาหกรรมของไทยได้ในอนาคต