เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๘ ดร. เกรียงศักดิ์ กิตติชัยเสรี ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ได้เข้าร่วมงาน Networking Dinner ที่จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานไทเป ณ ร้านอาหารไทย ซึ่งมีผู้แทนจากบริษัทนำเที่ยว สื่อมวลชน สายการบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไต้หวันเข้าร่วม จำนวน ๖๐ คน 

 

            ผู้อำนวยการใหญ่ฯ ได้ใช้โอกาสดังกล่าวชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นกับผู้เข้าร่วมงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ว่า ทางการไต้หวันได้ยกระดับการเตือนการเดินทาง (travel alert) ไปประเทศไทยเป็นระดับสีส้ม เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งนี้ การปรับระดับดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนไต้หวันเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทประกันบางรายอาจปฏิเสธการจ่ายเงินชดเชยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศไทยในช่วงที่ระดับการเตือนภัยเป็น "สีส้ม" หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทนำเที่ยวบางแห่งได้ขอให้นักท่องเที่ยวเซ็น release form ก่อนการเดินทาง ที่ตกลงว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลใด ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ระดับการเตือนภัยเป็น "สีส้ม" เอง อย่างไรก็ดี สำนักงานการค้าฯ ได้ติดตามและยกประเด็นเรื่องการปรับลดระดับขึ้นหารือกับฝ่ายไต้หวันในทุกโอกาส ซึ่งฝ่ายไต้หวันรับที่จะนำไปพิจารณาปรับลดต่อไป

 

            ผู้อำนวยการใหญ่ฯ ชี้แจงว่า ทางการไทยสามารถจับกุมคนร้ายในกรณีดังกล่าวได้แล้วจำนวนหนึ่งและคาดว่าจะจับกุมได้ทั้งหมด โดยจากการสอบสวนพบว่าเป็นการแก้แค้นของกลุ่มค้ามนุษย์ที่ถูกจับกุมกวาดล้าง ไม่ใช่การก่อการร้ายสากลหรือการแบ่งแยกดินแดน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพราะตำรวจไทยทราบตัวผู้กระทำความผิดเกือบทั้งหมดแล้ว

 

            ท้ายที่สุด ผู้อำนวยการใหญ่ฯ ยังได้ยกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าชาวไต้หวันยังมีความเชื่อมั่นและความชื่นชอบในประเทศไทย แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคือ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ผู้อำนวยการใหญ่ฯ พร้อมด้วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานไทเป ได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บชาวไต้หวัน ๒ รายจากเหตุระเบิด ณ โรงพยาบาล National Taiwan University ซึ่งผู้บาดเจ็บกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเคยไปประเทศไทยหลายครั้งแล้วและยังชอบประเทศไทยอยู่ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ตาม จากนั้น เมื่อวันที่ ๑ – ๔ กันยายน ๒๕๕๘ ได้นำนักธุรกิจไต้หวันเดินทางไปสำรวจบรรยากาศการลงทุนที่ประเทศไทย ซึ่งไม่มีนักลงทุนคนใดเอ่ยถึงหรือแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนไต้หวันต่อประเทศไทย และเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๘ สำนักงานการค้าฯ ได้จัดงานแสดงมวยไทย มีชาวไต้หวันให้ความสนใจเข้าร่วมชมการแสดงกันอย่างเนืองแน่น แสดงให้เห็นว่าชาวไต้หวันยังให้ความสนใจและมีความชื่นชอบประเทศไทยเป็นอย่างมาก