เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑๔.๓๐ - ๑๔.๕๐ น. นายฐานิศร์ ณ สงขลา กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ดร.Hussein N. A. Al-Sharif ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจย์ของซาอุดีอาระเบีย ที่เมืองเจดดาห์ ในโอกาสที ดร. Hussein ได้เข้ารับตำแหน่ง โดยมีนายมูหมัดลูตฟี อุเซ็ง รองกงสุลใหญ่ และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เข้าร่วม และมีนาย Hosny A. M. Bostagy ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศ กระทรวงฮัจย์ เข้าร่วมด้วย
ในโอกาสดังกล่าว กงสุลใหญ่ได้กล่าวขอบคุณผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ที่ให้พบและหารือเพื่อประโยชน์ในการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับกิจการฮัจย์ต่อไปในอนาคต และขอขอบคุณกระทรวงฮัจย์ที่ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือผู้แสวงบุญไทยในด้านต่าง ๆ จนทำให้การเดินทางมาแสวงบุญของคนไทยในปี ๒๕๕๘ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเข้าใจว่าในปีหน้า (๒๕๕๙) กระทรวงฮัจย์จะใช้ระบบ Unified Haj และ Haj online เต็มรูปแบบ ซึ่งฝ่ายไทยคงจะได้ติดต่อขอรับคำแนะนำ และแนวปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อให้การเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ของคนไทยในปีต่อไปเป็นไปด้วยความราบรื่น
ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวตอบยินดีที่ได้พบกับกงสุลใหญ่ และเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ฯ และว่า กระทรวงฮัจย์มีภารกิจหลักในการดูแลให้ความสะดวกผู้แสวงบุญจากทั่วโลกในการเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ และยินดีให้คำแนะนำ รวมทั้งตอบข้อสงสัยต่าง ๆ แก่สถานกงสุลใหญ่ฯ สำหรับการประชุมเตรียมการฮัจย์ประจำปี ๒๕๕๙ ระหว่างคณะผู้แทนฮัจย์ทางการไทยกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับกิจการฮัจย์ของฝ่ายซาอุดีฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ นั้น ขอให้ฝ่ายไทยเตรียมประเด็นต่าง ๆ ที่ประสงค์จะซักถาม และหยิบยกปัญหา รวมถึงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะเพื่อแจ้งต่อที่ประชุมเต็มคณะในโอกาสดังกล่าว
สำหรับในเทศกาลฮัจย์ ๒๕๕๙ เนื่องจากการขยาย/บูรณะบริเวณพื้นที่มัสยิดฮารอมแล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการกลับไปใช้โควต้าของจำนวนผู้แสวงบุญจากประเทศต่าง ๆ ตามสิทธิเดิมที่เคยได้รับ อย่างไรก็ดี หน่วยงานทีเกี่ยวข้องของซาอุดีฯ กำลังหารือและจะแจ้งผลให้ประเทศต่าง ๆ ทราบต่อไป