สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ธ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 538 view
            สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑๙.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ณ โรงแรม Kingsbury กรุงโคลัมโบโดยมีรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักธุรกิจศรีลังกา คณะทูตานุทูต กลุ่มเพื่อนประเทศไทย คนไทยที่อาศัยอยู่ในศรีลังกา และสื่อมวลชนศรีลังกาเข้าร่วมงานฯ ประมาณ ๒๗๐ คน
                                 
            นายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้กล่าวสุนทรพจน์เทิดพระเกียรติโดยกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ทรงงานหนักเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนมาตั้งแต่วันแรกที่ได้ทรงขึ้นครองราชสมบัติเมื่อ ๖๙ ปีที่แล้ว และทรงได้รับรางวัล Human Development Lifetime Achievement จากองค์การสหประชาชาติเป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๔๙ ซึ่งการอุทิศพระองค์ทำให้ประชาชนชาวไทยรักและเคารพพระองค์เสมือน “พ่อ” และถือเอาวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ของประเทศไทยด้วย 
 
            เอกอัครราชทูตฯ กล่าวด้วยว่าการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ไมตรีปาลา สิริเสนา เมื่อวันที่ ๑ - ๔ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งผู้นำของทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะขยายความร่วมมือทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูป ประมง การก่อสร้าง ยา และการท่องเที่ยว
 
            นาย Sarath Amunugama รัฐมนตรีภารกิจพิเศษ เป็นผู้แทนรัฐบาลศรีลังกาได้กล่าวถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและยาวนานระหว่างไทยและศรีลังกาบนพื้นฐานการเป็นประเทศพุทธ การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีไมตรีปาลา สิริเสนาซึ่งได้นำพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกาไปให้คนไทยสักการะเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ และได้มอบพระพุทธรูปหินแกรนิตให้กับวัดธรรมาราม จังหวัดอยุธยา และการเยือนศรีลังกาของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีของไทยที่ได้ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับมายังศรีลังกา ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกาใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยทั้งสองประเทศมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันอีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน และนาย SarathAmunugama ได้ขอบคุณประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือทางวิชาการและการฝึกอบรมต่าง ๆ แก่เจ้าหน้าที่ศรีลังกา
                                
            ในงานเลี้ยงรับรองดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เผยแพร่วิดีทัศน์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เปิดเพลงเทิดพระเกียรติฯ วิดีทัศน์ส่งเสริมการท่องเที่ยว และการลงทุนในประเทศไทย และฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง“คำอธิษฐาน” ด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ