เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีเวียดนาม และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออำลาในโอกาสที่จะพ้นหน้าที่

เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีเวียดนาม และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออำลาในโอกาสที่จะพ้นหน้าที่

วันที่นำเข้าข้อมูล 5 ม.ค. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 702 view
            เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเจือง เติ๊น ซาง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเพื่ออำลาในโอกาสที่จะพ้นหน้าที่ที่ทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนาม 
 
            ในโอกาสดังกล่าว ประธานาธิบดีได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย – เวียดนาม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง และการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ ๓ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ส่งความปรารถนาดีและถวายพระพรไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย และขออวยพรให้ประเทศไทยประสบแต่ความเจริญก้าวหน้าต่อไป
 
            เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้ขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม หน่วยราชการต่าง ๆ ตลอดจนทุกภาคส่วนของเวียดนามที่มีส่วนสนับสนุนการทำงานของตนที่ผ่านมา รวมทั้งย้ำถึงความสำคัญของเวียดนามซึ่งเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่ไทยมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ได้กล่าวแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับฝ่ายเวียดนามในการจัดกิจกรรมฉลอง ๔๐ ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนามในปี ๒๕๕๙
 
            เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออำลาในโอกาสที่จะพ้นหน้าที่ที่กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม 
 
            ในโอกาสดังกล่าว นายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตฯ ที่ผ่านมา ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้มีส่วนอย่างยิ่งในการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศขึ้นสู่อีกขั้น ทั้งการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศและการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ ๓ นอกจากนี้ นายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ ได้ย้ำถึงความสำคัญของไทยในฐานะคู่ค้าอันดับที่ ๑ ของเวียดนามในอาเซียน รวมทั้งเป็น ๑ ในผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม 
 
            เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้ขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม หน่วยราชการต่าง ๆ ตลอดจนทุกภาคส่วนของเวียดนามที่มีส่วนสนับสนุนการทำงานของตนที่ผ่านมา นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่าโดยที่ตนกำลังจะเดินทางไปรับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ตนจะยังคงส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป โดยเฉพาะในปี ๒๕๕๙ ซึ่งทั้งสองประเทศจะร่วมกันฉลองครบรอบ ๔๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูต
 
 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ