ระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ นายธัชไท ถมังรักษ์สัตว์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน พร้อมด้วยข้าราชการ ทีมประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน ประจำเมืองเซี่ยเหมิน (BIC) ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่เมืองเฉวียนโจว มณฑลฝูเจี้ยนก่อนจะออกเดินทางไปเมืองเฉวียนโจว กงสุลใหญ่ฯ และคณะได้ไปเยี่ยมชมและพบผู้บริหารบริษัทHansheng Yacht ในเมืองเซี่ยเหมิน ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือยอช์ทชั้นนำของจีน และมีความประสงค์จะไปลงทุนจัดตั้งกิจการที่เมืองพัทยาในประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับโอกาสการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตเรือสำราญในประเทศไทย และหลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเรือของบริษัทดังกล่าวด้วย
บริษัท Hansheng Yacht เป็นบริษัทผลิตเรือโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ประเภทเรือที่ผลิต ได้แก่ Business Yacht, Sight-seeing Ship, Speed Boat, Racing Boat, Sailing Boat, Motor Yacht เป็นต้น โดยโครงการที่จะไปลงทุนผลิตในประเทศไทยเป็นโครงการผลิตเรือโดยสาร ๒ ชั้น ขนาด ๒๔ ม. X ๑๐ ม. น้ำหนักประมาณ ๕๐ ตัน ใช้น้ำมันดีเซล บรรทุกผู้โดยสารได้ราว ๒๐๐ คน ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการท่องเที่ยวแถบชายทะเล หรือการล่องเรือตามเกาะต่าง ๆ ของไทย บนเรือจะมีห้องอาหารและที่พักสำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารด้วย
จากนั้นกงสุลใหญ่ฯ และคณะได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คมนาคมทางทะเลเมืองเฉวียนโจว ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ในอดีตเป็นเมืองท่าที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ มีการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและศาสนากับประเทศต่าง ๆ ทำให้เฉวียนโจวมีความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู โดยถ่ายทอดออกทางสถาปัตยกรรมที่คงเหลือไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ วัดไคหยวน ซึ่งเป็นวัดที่มีวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างจีนและฮินดู และเมืองเฉวียนโจวยังเป็นที่ตั้งของมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในจีน จนได้ชื่อว่าเป็น “East Asian Culture Capital” และได้รับการยอมรับจาก UNESCO ให้เป็น “World Multicultural Exhibition Center” เพียงแห่งเดียวในโลกอีกด้วย
ช่วงสายวันเดียวกัน ได้เดินทางต่อไปเพื่อเข้าเยี่ยมชมQuanzhou Trademark Gallery ซึ่งเป็นศูนย์จัดแสดงเครื่องหมายการค้าแห่งแรกและแห่งเดียวในจีน โดยจัดแสดงแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงซึ่งผลิตในเมืองเฉวียนโจว โดยแต่ละอำเภอจะมีเอกลักษณ์การผลิต อาทิ แหล่งผลิตรองเท้าในเมืองจิ้นเจียง แหล่งผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในเมืองสือซือ แหล่งผลิตเครื่องลายคราม/เซรามิกในเมืองเต๋อหว้า และแหล่งผลิตชาขึ้นชื่อในเมืองอันซี เป็นต้น และยังพบว่ามณฑลฝูเจี้ยนมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามากเกือบ ๒ แสนราย สูงเป็นอันดับ ๒ ของจีน เป็นสินค้าแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงของจีน ๑๒๙ รายการ และมีบริษัทเฉวียนโจวที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ๗๕๖ ราย สูงเป็นอันดับ ๓ ของจีนทำให้เห็นว่า จีนให้ความสำคัญกับลิขสิทธิ์ทางการค้า โดยให้ธุรกิจ SMEs ดำเนินการจดทะเบียนการค้า เพื่อป้องกันการถูกลอกเลียนแบบและเพื่อได้รับการคุ้มครองหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ในเมืองเฉวียนโจวให้ยั่งยืนต่อไป
ช่วงบ่าย คณะฯ เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตของบริษัท J-Tech CNC TenologyCo.,LTDซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องจักรกลที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ อาทิ เครื่องจักรสำหรับผลิตชิ้นส่วน/อะไหล่รถยนต์ เครื่องบินและยานอวกาศ เครื่องผลิตกรอบมือถือ เครื่องตัดกระจกหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น โดยเทคโนโลยีที่ใช้เป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นในจีน แต่ได้แรงงานฝีมือขั้นสูงจากไต้หวันเข้ามาถ่ายทอดงาน มีการผลิตและส่งออกประเทศในแถบเอเชียและรัสเซีย โดยประเทศคู่แข่งที่สำคัญคือ ญี่ปุ่น แต่หากเทียบกับเทคโนโลยีระดับเดียวกันแล้วจะมีราคาถูกกว่าเครื่องจักร ๑ เครื่อง สามารถทดแทนแรงงานคนได้ ๒๐ - ๓๐ คน
เช้าวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ กงสุลใหญ่ฯ ได้นำคณะได้เข้าเยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Sunshine International Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการเพาะพันธุ์เนื้อเยื่อพืชไม้ดอก ไม้ประดับ พืชสมุนไพรกินได้ ติดอันดับ Top ๕ ของโลก ธุรกิจหลักคือ การเพาะปลูกพืชเพื่อใช้ในการตกแต่งสวน โดยจะใช้การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชแบบปลอดเชื้อ มีการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ทำให้ได้พันธุ์พืชที่มีความสมบูรณ์ใกล้เคียงกับแม่พันธุ์มากที่สุด มีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งจากการศึกษาดูงานพบว่า ไทยสามารถเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีชีวภาพเช่นเดียวกันนี้ เพื่อนำไปต่อยอดขยายผลผลิตทางการเกษตรของไทยได้เช่นเดียวกัน
จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังบริษัทผลิตรองเท้าภายใต้แบรนด์Joy&Marioเพื่อพบปะผู้บริหาร ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือด้านการค้า โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญชวนให้บริษัทฯ ไปลงทุนในประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นถึงศักยภาพตลาดอาเซียนที่มีไทยเป็นศูนย์กลาง จากนั้นผู้บริหารได้พาคณะฯ เดินชมโรงงานเพื่อดูขั้นตอนการผลิต
บริษัท Joy&Mario เป็นบริษัทผลิตรองเท้าลำลองที่เน้นการสวมใส่สบายเป็นหลักเน้นแบบและสีสันสดใส ลวดลายสะดุดตา มีการผลิตและส่งออกจำหน่ายในหลายประเทศ ได้แก่ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ปานามา เป็นต้น โดยในปี ๒๐๑๓ มีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทย (กรุงเทพฯ) เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ มีการวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ของเว็บไซด์ Tmallด้วย
ช่วงบ่าย ได้เข้าพบปะผู้บริหารบริษัทGolf Life (Fujian) Golf Club ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่อยู่ภายใต้สังกัดของสมาคมกีฬามณฑลฝูเจี้ยน (หน่วยงานภาครัฐ) มีรายได้จากการเป็นผู้ดำเนินการมือที่ ๓ กล่าวคือทำหน้าที่ในการกรองและหาบริษัท/หน่วยงานที่มีศักยภาพในด้านธุรกิจ จับคู่ให้ตรงกับกลุ่มประเภทธุรกิจที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้กีฬากอล์ฟเป็นสื่อ เนื่องจากผู้ที่เล่นกอล์ฟส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ โดยมีรายได้จากเงินลงทุนก้อนแรกในโครงการการลงทุนต่าง ๆ เป็นสัดส่วนร้อยละ ๓ - ๑๐ และมีบริการติดตามผลงานและความคืบหน้าด้วย การจากพูดคุยกับผู้บริหาร ทำให้เห็นว่าบริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในด้านการค้นหานักธุรกิจที่น่าเชื่อถือ และจับคู่ทางธุรกิจ ทำให้เกิดการลงทุนในโครงการใหญ่ ๆ ขึ้น ซึ่งฝ่ายไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายขององค์กรดังกล่าวในการหาความร่วมมือทางธุรกิจต่อไปในอนาคตได้
จากการเยี่ยมชมบริษัทเอกชนในเมืองเฉวียนโจวทำให้เห็นว่า จีนได้พัฒนาระบบการผลิต อาทิ บ. J-Tech ซึ่งผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อนำไปใช้ผลิตสินค้าต่าง ๆ เป็นการลดแรงงานที่ใช้ในการผลิต และการเยี่ยมชม บ. Sunshineให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพที่นำมาใช้ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งล้วนสอดคล้องกับแนวทางการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ ของจีนทั้งสิ้น ซึ่งเมืองเฉวียนโจวเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรม SMEs กระจายอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ ถือเป็น Power House หรือเครื่องจักรสำคัญในภาคการผลิตของมณฑลฝูเจี้ยน สามารถผลิตสินค้า China Brand ออกสู่ตลาดโลกได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งไทยควรศึกษาเพื่อนำไปใช้กับการพัฒนาศักยภาพของ SMEs ไทยต่อไป