เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ ระหว่างเวลา ๑๔.๐๐-๑๗.๐๐ น.  สอท. ณ กรุงดิลี ได้จัดงาน Happy Songkran, Amazing Thailand! หรืองานปีใหม่ไทยเพื่อชุมชนไทยรวมใจในวันมหาสงกรานต์ ณ ห้างติมอร์พลาซ่า ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดและมีประชาชนไปจับจ่ายซื้อของมากที่สุดในกรุงดิลี  โดยมีชาวไทย ชาวติมอร์ฯ คณะทูตานุทูต  ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน สนใจเข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ คน

            เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น.  นางสาวพัชนี กิจถาวร เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้ทำพิธีเปิดงานด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูป อันเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมและประเพณีสงกรานต์ที่ดีของไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวติมอร์ฯ และชาวต่างชาติ ที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการเล่นสาดน้ำสงกรานต์โดยไม่เคยรับทราบความหมายที่แท้จริงของประเพณีและการสรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล

            หลังจากพิธีเปิดงาน  สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญชาวไทยที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในกรุงดิลี ซึ่งมีอยู่จำนวน ๓ ร้าน มาสาธิตวิธีทำอาหารไทยที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ได้แก่ ต้มยำทะเล ลาบไก่ ผัดไทย ส้มตำ ราดหน้าไก่ แกงเขียวหวานไก่ และขนมบัวลอย เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนไทย และประชาสัมพันธ์ธุรกิจร้านอาหารไทยในติมอร์ฯ เพื่อเพิ่มรายได้ให้คนไทยในต่างแดน ตามนโยบายการทูตประชารัฐ 

            ภายหลังการสาธิตวิธีทำอาหารไทย  สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดให้ผู้เข้าร่วมชิมอาหารตามรายการที่สาธิตทั้งหมด เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารไทยในวงกว้างและสร้างกระแสนิยมอาหารไทย  ปรากฏว่า ได้รับความสนใจและผลตอบรับอย่างดี  ส่วนใหญ่รู้จักอาหารไทยและชื่นชม ปทท. มาก  แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้รับประทานอาหารไทย

ในติมอร์ฯ เพราะขณะนี้มีร้านอาหารไทยในกรุงดิลีเพียง ๓ ร้าน และไม่สามารถหาซื้อเครื่องปรุงอาหาร / สินค้าไทยในติมอร์ฯ ได้ง่ายนัก เนื่องจากปัจจุบัน ยังมีการนำเข้าสินค้าอาหารไทยไม่มากนัก อีกทั้งราคาสินค้าไทยยังสูงกว่าราคาสินค้าจากอินโดนีเซีย  ทำให้ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร

            สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชาสัมพันธ์สินค้าอาหารไทยที่มีขายอยู่ในห้างติมอร์พลาซ่า อาทิ ซอสปรุงรส เครื่องแกง น้ำจิ้ม น้ำปลา กะทิ เส้นหมี่ ฯลฯ  ด้วยการซื้อสินค้าไทยเหล่านั้นมาจัดแสดงภายในงาน และให้คำแนะนำประเภทและวิธีบริโภค  รวมทั้งจัดให้ผู้มาร่วมงานทำแบบสอบถามเรื่องอาหารไทย และจับสลากชิงรางวัลสินค้าไทยและตำราอาหารไทย เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องปรุงอาหารไทยดังกล่าวในติมอร์ฯ นอกจากการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยในต่างประเทศ ด้วยกิจกรรมการเสริมสร้าง

ความสามัคคีและเผยแพร่เอกลักษณ์ไทยในต่างแดนร่วมกัน  เพื่อส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารไทย นวดไทย สินค้าไทย การท่องเที่ยวไทย และศิลปวัฒนธรรมแล้ว  สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังจัดกิจกรรมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสถาบันและประเทศไทยในต่างประเทศ ด้วยการจัดแสดงชุดนิทรรศการเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ ภายในงานด้วย

            ภายในงาน  สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดบู๊ธถ่ายภาพที่ระลึกขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้มาร่วมงานมีโอกาสได้ถ่ายภาพที่ระลึก และเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยโดยอ้อม โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ เลือกใช้ภาพการเล่นสาดน้ำวันสงกรานต์ในภาคเหนือของไทย ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้มาร่วมงานได้เป็นอย่างมาก ทำให้มีการสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกันอย่างคึกคัก  อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากติมอร์ฯ ไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยยังค่อนข้างสูง โดยมีเส้นทางการบิน 2 เส้นทาง คือ ผ่านทางบาหลี ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ USD ๘๐๐ และผ่านทางสิงคโปร์ ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ USD ๑๒๕๐

            ประชาชนที่มาร่วมงานทั้งชาวติมอร์ฯ และชาวต่างชาติต่างให้ความเห็นเหมือนกันว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ น่าจะจัดงานวัฒนธรรมในลักษณะดังกล่าวเป็นประจำทุกปี เนื่องจากส่วนใหญ่มีความชื่นชมประเทศไทยและยินดีที่ได้เรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย ผ่านทางกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ  

            ในขณะเดียวกัน ชุมชนชาวไทยในติมอร์ฯ ซึ่งมีอยู่เพียง 40 คน เห็นว่า การจัดกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ ทำให้ชาวไทยในต่างแดนมีโอกาสมาพบปะสังสรรค์และเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คนไทยด้วยกันได้เป็นอย่างดี และการจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อาหารไทยของสถานเอกอัครราชทูตฯ ยังช่วยส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารไทยของคนไทยในติมอร์ฯ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วย

            นอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว  การจัดงาน Happy Songkran, Amazing Thailand! ในครั้งนี้ยังได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชนท้องถิ่นของติมอร์ฯ  โดยสื่อได้ส่งช่างภาพอาชีพมาถ่ายภาพกิจกรรมตลอดงาน โดยเฉพาะช่วงการสาธิตวิธีทำอาหารไทย และลงข่าวประชาสัมพันธ์งานพร้อมภาพถ่ายดังกล่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ทันทีภายหลังการจัดงาน รวมถึง นสพ.ท้องถิ่นรายวัน Timor Post และวารสารท้องถิ่นรายเดือน Guide Post ที่ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อเสนอข่าวและภาพกิจกรรมทางสื่อดังกล่าวต่อไป