กิจกรรมงานวันแม่แห่งชาติ ๒๕๕๙ ของสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์

กิจกรรมงานวันแม่แห่งชาติ ๒๕๕๙ ของสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ส.ค. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 624 view
             เมื่อวันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร โดยนายพีรศักย จันทรวินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ฯ ร่วมกับสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันจัดโครงการวันแม่แห่งชาติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถฯ และรำลึกพระคุณแม่ หอประชุมซาละ กามิ้ล มหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร 
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 
            ๑. การประกวดเขียนเรียงความเทิดพระเกียรติภายใต้หัวข้อ “ความประทับใจต่อพระราชกรณียกิจในจังหวัดบ้านเกิดของฉัน” การแต่งกลอนและวาดภาพภายใต้หัวข้อ “แม่ แม่ และก็แม่” ชิงเงินรางวัลและบัตรโดยสารเครื่องบินไป – กลับ กรุงไคโร – กรุงเทพฯ – กรุงไคโร จากสถานเอกอัครราชทูตฯ 
            ๒. การจัดบอร์ดนิทรรศการแสดงผลงานผู้ชนะการประกวดเรียงความ วาดภาพและแต่งกลอน รวมทั้งนำเสนอพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
            ๓. การกล่าวสุนทรพจน์เทิดพระคุณแม่โดยตัวแทน น.ศ. ที่สมาคมฯ คัดเลือก
            ๔. การเลี้ยงอาหารเย็นแก่นักศึกษาไทยในกรุงไคโรที่เข้าร่วมงานกว่า ๕๐๐ คน
           ทั้งนี้ กิจกรรมวันแม่แห่งเป็นชาติเป็นโครงการต่อเนื่องที่สมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรฯ ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีและสถานเอกอัครราชทูต ฯ ได้ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมาเนื่องจากเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้นักศึกษาและคนไทยในอียิปต์ได้แสดงความจังรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ แม่หลวงของแผ่นดิน รวมทั้งได้ระลึกถึงพระคุณของมารดาผู้ให้กำเนิด ตลอดจนเสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นประชาชนไทย เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของนักศึกษาและชุมชนคนไทยในอียิปต์ 
 
ที่มาของการประกวดเรียงความเทิดพระเกียรติ
“ความประทับใจต่อพระราชกรณียกิจในจังหวัดบ้านเกิดของฉัน”
เนื่องในโอกาสมหามงคล วันแม่แห่งชาติ ๒๕๕๙
            นับเป็นเวลากว่า ๗ ทศวรรษที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงตรากตรำพระวรกายและทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทุกพื้นที่ทั่วแผ่นดินไทย ในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  พระองค์ได้เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในถิ่นทุรกันดาร ขึ้นเขาลงห้วย ผ่านร่องน้ำ สะพานที่ผุพัง ล้วนเป็นภาพที่ชินตาของประชาชนผู้เฝ้ารับเสด็จ ซึ่งไม่เพียงแต่เสด็จเยี่ยมราษฎรด้วยพระองค์เองเท่านั้น แต่ยังทรงพระกรุณานำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานไปตรวจสุขภาพให้กับราษฎรในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในจังหวัดต่าง ๆ อีกด้วย
            ดังนั้น จึงเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป ทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวโลกว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระปรีชาสามารถ พระวิริยะอุตสาหะ และด้วยพระราชหฤทัยที่ทรงเมตตาห่วงใยประชาราษฎร์และแผ่นดินไทยเป็นสำคัญจึงเป็นที่มาของการประกวดเรียงความหัวข้อ “ความประทับใจต่อพระราชกรณียกิจในจังหวัดบ้านเกิดของฉัน” เพื่อให้เยาวชนไทยได้ศึกษาและทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ในจังหวัดบ้านเกิดของตนเอง และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อชุมชน สังคม หรือจังหวัดบ้านเกิดของตน 
ผลงานเรียงความที่ส่งเข้าประกวดทุกชิ้นจึงเป็นการแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเป็นผลงานเทิดพระเกียรติเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษาด้วย ซึ่งผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัลจะถูกนำไปเผยแพร่เพื่อเทิดพระเกียรติต่อไป
             ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความรักและความอบอุ่นจากแม่ซึ่งเป็นกำลังใจที่สำคัญของนักศึกษาไทยในอียิปต์ กอปรกับการตระหนักดีว่า การเดินทางมาศึกษาในอียิปต์ทำให้นักศึกษาต้องไกลห่างจากแม่และครอบครัว หากได้มีโอกาสพบหน้าและใช้เวลาอยู่กับแม่ในช่วงปิดภาคเรียนจะเป็นกำลังใจสำคัญ จึงเป็นที่มาของการจัดหาของรางวัลพิเศษให้แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดเรียงความ โดยจะได้รับบัตรโดยสารเครื่องบินไป–กลับ กรุงไคโร–กรุงเทพฯ ชั้นประหยัด จำนวน ๑ ที่นั่ง เพื่อได้กลับไปเยี่ยนเยียนแม่ที่ประเทศไทยในช่วงปิดภาคเรียนนี้ 
สถานเอกอัครราชทูต ฯ ขอนำส่งผลงานของนักศึกษาไทยซึ่งได้รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๑ รองชนะเลิศอันดับที่ ๒ และรองชนะเลิศอันดับที่ ๓ มา ณ ที่นี้ เพื่อพิจารณาประชาสัมพันธ์ต่อไป
            ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ฯ ได้สัมภาษณ์ นางสาวนีซะ อาแมสาแว ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่บ้านไผ่งาม อำเภอ
สุคิริน จังหวัดนราธิวาส นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ คณะศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัล อัซฮัร ผู้ชนะเลิศการประกวดเรียงความเทิดพระเกียรติ ทราบว่า นางสาวนีซะ ฯ เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว โดยมีน้องชายและน้องสาวอีก ๓ คน ตนได้เดินทางมาศึกษาที่อียิปต์เป็นเวลา ๓ ปีแล้ว และยังไม่ได้มีโอกาสเดินทางกลับไปหาแม่และครอบครัว เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไทยก็ค่อนข้างสูง โดยปกติแล้วตนได้ติดต่อกับแม่ผ่านทางโทรศัพท์เพียงเดือนละ ๑ -๒ ครั้งเท่านั้น และตั้งใจว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ ๔ แล้วจึงจะเดินทางกลับไทย ทั้งนี้ ตนได้เข้าร่วมกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูต ฯ และสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรอยู่บ่อยครั้ง เมื่อตนได้เห็นโครงการประกวดเรียงความของสถานเอกอัครราชทูต ฯ จึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วม โดยมีความรู้สึก “อยากกลับบ้านไปหาแม่” เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ตนสมัครเข้าร่วมประกวดเขียนเรียงความเทิดพระเกียรติและตั้งใจเขียนเป็นอย่างยิ่ง โดยสถานที่ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ปรากฏในเรียงความของตนนั้น ตนเขียนมาจากความรู้สึกซึ่งตนเองได้มีโอกาสไปศึกษาและเยี่ยมชมด้วยตนเองตั้งแต่ในวัยเด็ก อย่างไรก็ดี ตนได้ศึกษารูปแบบการใช้ภาษาที่เหมาะสมจากสื่อต่าง ๆ และเรียบเรียงการเขียนให้ถูกต้องตามหลักการเขียนเรียงควมาเพื่อให้เรียงความออกมาสมบูรณ์ที่สุด ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับบัตรโดยสารเครื่องบิน อย่างไรก็ดี ตนเขียนเรียงความเทิดพระเกียรตินี้ด้วยความตั้งใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้รับรางวัลชนะเลิศตนจึงรู้สึกดีใจมาก และได้โทรศัพท์บอกแม่ที่ไทยแล้ว ซึ่งแม่ของตนแสดงความดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนแม่ของตนได้ฝันว่าตนเดินทางกลับไปหาแม่ที่ไทย และการได้รับรางวัลดังกล่าวจึงเป็นเสมือนฝันที่เป็นจริงของแม่ ทั้งนี้ ตนตั้งใจว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ที่ไทยในช่วงปิดภาคเรียนนี้ โดยจะช่วยแม่ทำกับข้าวและทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ และได้แสดงความขอบคุณสถานเอกอัคราชทูต ฯ และสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ฯ ที่ได้จัดโครงการดีๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยในอียิปต์ที่อยู่ไกลบ้านและไม่ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมแม่และครอบครัวได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้ และหวังว่าจะมีโครงการดีๆ ในลักษณะดังกล่าวในปีต่อไป โดยในโอกาสวันแม่แห่งชาตินี้ นอกจากจะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อแม่หลวงของแผ่นดินแล้ว จะมีสิ่งใดที่ดีไปกว่าการได้กลับไปสู่อ้อมกอดแม่ที่ประเทศไทย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ