เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๙ สมาคม Danish-Thai Society ได้จัดกิจกรรม Tiffin Thai Curry Luncheon ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันระหว่างกลุ่มชาวเดนมาร์กซึ่งเป็นสมาชิกสมาคม ซึ่งล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยในอดีตหรือปัจจุบัน และจัดได้ว่าเป็นกลุ่ม Friends of Thailand ที่มีศักยภาพและแนบแน่น โดยทุกๆ ปีจะเชิญเอกอัครราชทูตฯและข้าราชการ สถานทูตฯเข้าร่วม เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย สรุปได้ ดังนี้

            ๑. ในช่วงเช้า ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น. ออท. ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองเครื่องดื่มและอาหารว่างแก่สมาคมฯ โดยในปีนี้ จัดที่ทำเนียบเนื่องจาก สอท. กำลังซ่อมแซมอยู่ โดยมีผู้มาร่วมประมาณ ๖๐ กว่าคน ในการนี้ ออท.ได้กล่าวต้อนรับสมาชิกสมาคม และตามธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกๆ ปี ออท. ได้นำเรื่องสถานการณ์ในประเทศไทยมาเล่าสู่กันฟัง ภายใต้หัวข้อ “The State of Affairs of the Kingdom of Thailand” โดย  ได้แจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ในประเทศล่าสุด รวมทั้งผลการลงประชามติร่าง รธน. เมื่อวันที่ ๗ ส.ค. ๒๕๕๙ ซึ่งประชาชนชาวไทยได้เข้าร่วมกว่าร้อยละ ๖๐ ทั่วไปประเทศ อันจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรมในปี ๒๕๖๐ (free and fair elections)  โดยรัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะเดินตาม Roadmap ที่วางไว้ พร้อมการปฏิรูปทางการเมืองต่างๆ เพื่อบรรลุประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในอนาคต (sustainable democracy) นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงประเด็นท้าทายต่างๆ ที่รัฐบาลต้องเผชิญในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ปัญหาแรงงาน ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยของประเทศคู่ค้าหลายประเทศของไทย ซึ่งส่งผลให้ไทยต้องปฏิรูปประเทศบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งรัฐบาลมีแผนยุทธศาสตร์ Thailand ๔.๐ หรือ Value-Based Economy ซึ่งเน้นการวิจัย การค้นคว้า และนวัตกรรมใหม่ๆ ตามแนวการพัฒนาตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 

            นอกจากนี้  ออท. ได้กล่าวถึงเหตุระเบิดเมื่อกลางเดือน ส.ค. ซึ่งแม้ว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงวันแรกๆ แต่สถานการณ์ก็ได้กลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว และบัดนี้ คนไทยทุกคนก็พร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามิตรประเทศเช่นเดนมาร์ก ซึ่งมีความสัมพันธ์มาช้านานกับประเทศไทย ก็จะสามารถหาแนวทางร่วมในการดำเนินความร่วมมือต่อไปอย่างใกล้ชิด บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความเข้าใจกันและกัน

            ๒. สำหรับงานเลี้ยงอาหารกลางวันจัดขึ้นที่ Asia House โดยจัดเป็นบุฟเฟ่ต์แกงเขียวหวานและแกงมัสมั่น โดยสมาคมฯ เป็นเจ้าภาพ ในระหว่างรับประทานอาหาร นาย Carsten Dencker Nielsen กสม. ไทยประจำกรุงโคเปนเฮเกน และประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ Asia House ได้กล่าวต้อนรับสั้นๆ ในฐานะเจ้าของสถานที่ พร้อมได้เล่าถึงความพิเศษของ Asia House ซึ่งเปรียบเสมือน Thai House เนื่องจากเป็นอาคารสำนักงานดั้งเดิมของบริษัท East Asiatic Company ซึ่งก่อตั้งที่ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ รวมทั้งประวัติที่มาของรูปปั้นจำลองพระบรมรูปทรงม้าของรัชกาลที่ ๕ ที่ได้มาประดิษฐานอยู่ในสวนที่นี่ด้วย ในช่วงท้ายของงาน ได้มีการจับสลากรางวัลต่างๆ  ซึ่ง สอท. ก็ได้ร่วมบริจาคด้วย

             ๓. อนึ่ง สมาคม Danish-Thai Society ก่อตั้งเมื่อ ๖๗ ปีที่แล้ว และมีสมาชิกประมาณกว่า ๑๐๐ คน ซึ่งแต่ละคนมีความเชื่อมโยงกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจที่อาจจะเคยก่อตั้งบริษัทที่ประเทศไทย และหลายคนก็เติบโตในประเทศไทยและพูดภาษาไทยได้ด้วย โดยจัดว่าเป็นสมาคมที่ active สมาชิกส่วนใหญ่จะสูงวัย และชื่นชอบที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ