งานเทศกาลไทย ณ มหานครฉงชิ่ง ประจำปี ๒๕๖๒ ที่จัดขึ้นโดย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ระหว่างวันที่   ๓๐ เมษายน – ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ ลานห้างสรรพสินค้าซินกวงเทียนตี้ (Shin Kong Place) ได้สำเร็จลุล่วงแล้วด้วยดี โดยได้รับการสนับสนุนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คัดเลือกผู้ประกอบการในการออกบูธ และงานดังกล่าวยังได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลเขตหยูเป่ย มหานครฉงชิ่ง ห้างสรรพสินค้าซินกวังเทียนตี้ รวมถึงหน่วยงานทีมประเทศไทย ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขานครเฉิงตู รวมถึง และภาคเอกชนไทยในมหานครฉงชิ่ง ได้แก่ สายการบินไทยสไมล์ และธนาคารกรุงเทพ สาขามหานครฉงชิ่ง ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมภายในงานดังกล่าวเป็น อย่างดี

งานเทศกาลไทย ในมหานครฉงชิ่งครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๓  วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างไทยกับจีนโดยเฉพาะในระดับประชาชนของทั้งสองฝ่าย ผ่านภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรมประเพณี นาฏศิลป์ อาหาร การท่องเที่ยว รวมทั้งสินค้าไทยที่มีคุณภาพหลากหลายชนิด เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและนิยมในบรรดาชาวจีนในมหานครฉงชิ่งซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง

พิธีเปิดงานฯ มีขึ้นในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๕.๓๐ น. โดยนายวิทิต เภาวัฒนาสุช กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู เป็นประธานในพิธี และกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานฯ สำหรับผู้นำฝ่ายจีนที่ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีและกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานฯ ได้แก่ นาย เฉิน เต๋อไห่ (Mr. Chen Dehai) เลขาธิการ ศูนย์อาเซียนจีน ณ กรุงปักกิ่ง นายหลี่ เฉียน (Mr. Li Qian) อธิบดีสำนักงานต่างประเทศและกิจกรรมชาวจีนโพ้นทะเลมหานครฉงชิ่ง และนายหม่าเฉิง ฉวน รองนายกเทศมนตรี เขตหยู่เป่ย มหานครฉงชิ่ง นอกจากนั้น ยังได้รับเกียรติจากกงสุลใหญ่ประเทศต่าง ๆ ในมหานครฉงชิ่ง ได้แก่  นาง Cecille EI Beleidi  กงสุลใหญ่ ประเทศสหราชอาณาจักร Mr. Men Vanna กงสุลใหญ่ ประเทศกัมพูชา Mr. Crescente R. Relacion กงสุลใหญ่ ประเทศฟิลิปปินส์ Mr. Jeff DAVID กงสุลใหญ่ ประเทศแคนาดา Mr. Nobuyuki WATANABE กงสุลใหญ่ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีนักข่าวและสื่อชั้นนำในพื้นที่ และชาวมหานครฉงชิ่งเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง 

สำหรับในปีนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้ร่วมกับ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการจัดงานเป็นครั้งแรก โดยหน่วยงานทั้งสองได้ช่วยคัดเลือกผู้ประกอบการไทยจำนวน ๘๒ ราย จากทั่วทุกภูมิภาคของไทย มาร่วมออกบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงาน ครอบคลุมกลุ่มสินค้าคุณภาพ  ๔ ประเภท ได้แก่ (๑) สินค้าสปาเพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง (๒) สินค้าเกษตรแปรรูป ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องปรุงอาหาร และผลไม้อบแห้ง (๓) ผลิตภัณฑ์เครื่องไม้ และของตกแต่งบ้าน และ (๔) เครื่องประดับและเสื้อผ้า ทำให้ชาวมหานครฉงชิ่งและผู้บริโภคเมืองใกล้เคียงสามารถเลือกสรรสินค้ากันได้อย่างจุใจ และส่งเสริมกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยและชาวจีน เพื่อต่อยอดความร่วมมือทางภาคธุรกิจในอนาคตให้แก่ผู้ประกอบทั้งสองประเทศอีกด้วย

นอกเหนือจากสินค้าไทยที่นำมาแสดงและจำหน่ายภายในงานแล้ว ยังมีกิจกรรมการแสดงบนเวที โดยคณะนาฏศิลป์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.ลำพูน ในชุดการแสดงที่หลากหลาย อาทิ การตีกลองสะบัดชัย ศิลปะการต่อสู้แบบไทย (แม่ไม้มวยไทย) และการแสดงนาฎศิลป์ไทยในแบบโบราณและแบบประยุกต์ อาทิ การละเล่นไทย ระบำสี่ภาค จากนักศึกษาไทยในมหานครฉงชิ่ง มหาวิทยาลัยซีหนาน นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์สินค้าไทย และกิจกรรมสันทนาการ การจับสลากชิงรางวัล/ ของสมนาคุณต่าง ๆ รวมถึง การเชิญชวนชาวฉงชิ่งเล่นเกมส์ตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศไทย เพื่อสร้างสีสันสำหรับงานดังกล่าวด้วย ซึ่งผู้ประกอบการให้ความอนุเคราะห์สินค้าพรีเมียมเป็นของรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมเล่นเกมส์ด้วย นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมงานยังได้ร่วมลุ้นชิงโชครางวัลใหญ่เป็นตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ฉงชิ่ง-กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง จำนวน ๒ ใบ   อภินันทนาการ จากการสายการบินไทยสไมล์ ด้วย ซึ่งกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมสันทนาการเหล่านี้มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศ เรียกร้องความสนใจ และช่วยสร้างสีสันภายในงานให้กับชาวจีนมหานครฉงชิ่งได้ เป็นอย่างมาก

เนื่องด้วยการพัฒนาทางการค้าเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ก้าวไกลทำให้งานเทศกาลไทยฯ ในครั้งนี้ มีความพิเศษและร่วมสมัยคือ  ผู้ประกอบการไทยได้ใช้ FinTech หรือ ระบบการรับเงินและการจ่ายเงินแบบออนไลน์ ทั้งในรูปแบบของ  Alipay (จือฟู่ป่าว) และ WeChatPay (เวยซิ่นจือฟู่) และยังได้มีส่วนสนับสนุนผลักดันการซื้อขายผ่านช่องทางการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน หรือ Cross Border E-commerce ซึ่งสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคชาวจีน และผู้ประกอบการต่างชาติสามารถใช้ประโยชน์ของกฏ ระเบียบ การซื้อขาย ที่ผ่อนปรนกว่าการซื้อขายตามช่องทางการค้าปกติ ซึ่งน่าจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายระยะยาว และทำให้เกิดความคล่องตัวของการค้าขายระหว่างไทยและจีนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังสอดคล้องกับยุคสังคมไร้เงินสดของจีน และสอดคล้องกับนโยบาย Thailand ๔.๐ เพื่อการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้ก้าวสู่ความทันสมัย ด้วย นอกจากนั้น ยังถือว่าเป็นยังสอดคล้องกับนโยบาย Made in China ๒๐๒๕ ของจีน ที่จีนเองก็เน้นการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมในการผลิตและการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์สินค้าและการจับจ่ายในชีวิตประจำวันด้วย

งานเทศกาลไทย ณ มหานครฉงชิ่ง ประจำปี ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๓ นี้ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างไทยกับจีน ตลอดจนให้  ชาวจีนภูมิภาคตะวันตก ได้รู้จักไทยในมุมมองต่าง ๆ ผ่านการถ่ายทอดทั้งในด้านของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว และการค้า โดยเฉพาะการนำเรื่องสินค้าไทยคุณภาพเป็นตัวแปรหลักของการช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่งดงามและความหลากหลายของไทยในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการไทย มีโอกาสนำสินค้าคุณภาพมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อศึกษาตลาดสินค้าไทยในจีน และศึกษาพฤติกรรม ผู้บริโภคชาวจีนในตลาดมหานครฉงชิ่ง และใกล้เคียง รวมทั้ง ยังมีโอกาสในการจับคู่ทางธุรกิจ และการมาเป็นตัวเลือกแก่คู่ธุรกิจชาวจีนในมหานครฉงชิ่งที่อาจจะยังไม่มีความรู้เรื่องสินค้าคุณภาพของไทยอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่งในการแสวงหาช่องทางและโอกาสทางการค้าของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการได้มีโอกาสนำความรู้เรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่ดังกล่าว กลับไปพัฒนาคุณภาพสินค้าและหีบห่อสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดผู้บริโภคชาวจีนมหานครฉงชิ่งอีกด้วย