เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการเข้าเป็นภาคีความตกลงภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลเกี่ยวกับการอนุรักษ์และการใช้อย่างยั่งยืนซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ (ความตกลง BBNJ) ครั้งที่ 1/2568
ที่ประชุมเห็นควรให้ประเทศไทยเร่งรัดกระบวนการในการเข้าเป็นภาคีความตกลง BBNJ เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์สูงสุดของไทยในทะเลหลวง กล่าวคือ สิทธิร่วมตัดสินใจในการประชุมรัฐภาคี การเข้าถึงกลไกด้านการเงิน รวมถึงการได้รับความช่วยเหลือและการส่งเสริมศักยภาพของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยในการเข้าถึงแหล่งข้อมูล การวิจัย และการสนับสนุนด้านเทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ในการนี้ ที่ประชุมจึงเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำคำแปลของความตกลงภายใต้ความตกลง BBNJ อย่างเป็นทางการ และคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากฎหมายเพื่อรองรับพันธกรณีตามความตกลง BBNJ เพื่อพิจารณาและเตรียมการที่เกี่ยวข้องของไทยในการเข้าเป็นภาคีความตกลง BBNJ ต่อไป
ความตกลง BBNJ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม ติดตาม และจัดระเบียบการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมีชีวิตโดยเฉพาะทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเล (marine genetic resources: MGRs) และการส่งเสริมความเป็นธรรมในการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรดังกล่าวในพื้นที่นอกเขตอำนาจของรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกร่วมกันของมนุษยชาติ โดยเนื้อหาของความตกลง BBNJ ครอบคลุม 4 เรื่อง ได้แก่ (1) การจัดระเบียบการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเลในทะเลหลวงรวมถึงการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้มาจากทรัพยากรดังกล่าว (2) การใช้เครื่องมือการจัดการเชิงพื้นที่รวมถึงการจัดตั้งพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (3) การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และ (4) การเสริมสร้างขีดความสามารถและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทะเล
ปัจจุบัน มากกว่า 60 ประเทศให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีต่อความตกลง BBNJ ครบตามจำนวนประเทศที่เป็นเงื่อนไขในการมีผลใช้บังคับความตกลง BBNJ ความตกลงจึงจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 17 มกราคม 2569