กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ร่วมปาฐกถาในงาน 2025 Sichuan-South Asia and Southeast Asia Business Development and Cooperation Conference

กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ร่วมปาฐกถาในงาน 2025 Sichuan-South Asia and Southeast Asia Business Development and Cooperation Conference

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ก.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 22 ก.ย. 2568

| 42 view

เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๘ นายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู เข้าร่วมพิธีเปิดงาน 2025 Sichuan-South Asia and Southeast Asia Business Development and Cooperation Conference
ณ โรงแรม Jin Jiang นครเฉิงตู ซึ่งจัดโดยสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีน (China Council for the Promotion of International Trade – CCPIT) ประจำมณฑลเสฉวน ร่วมกับหอการค้าสมาคมเอเชียใต้เพื่อความร่วมมือระดับภูมิภาค (South Asian Association for Regional Cooperation (SAARC) Chamber of Commerce) และศูนย์อาเซียน - จีน (ASEAN – China Center) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระหว่างมณฑลเสฉวนกับกลุ่มประเทศเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีผู้เข้าร่วมกว่า ๓๐๐ คนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคมการค้าในมณฑลเสฉวน เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

งานดังกล่าวได้รับเกียรติจากนาย Lin Shucheng รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองประจำมณฑลเสฉวน กล่าวเปิดงาน โดยระบุว่าจีนกับภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์เป็นพื้นฐานสำคัญ และปัจจุบัน มีตลาดและห่วงโซ่อุปทานที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน รัฐบาลจีนจึงมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระดับภูมิภาคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรม พร้อมขยายความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว

ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้ร่วมปาฐกถาในการเสวนาหัวข้อ “Deepening Traditional Economic and Trade Cooperation to Jointly Enhance Regional Industrial and Supply Chain Resilience” โดยได้กล่าวถึงพื้นฐานของความสัมพันธ์ไทย – จีนที่แน่นแฟ้นตั้งแต่ระดับพระราชวงศ์ การเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ซึ่งนำมาสู่ผลประโยชน์และการเติบโตร่วมกันในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการค้าไทย - เสฉวนที่เติบโตกว่าร้อยละ ๑๑๐ ในปีนี้ หรือตัวเลขนักท่องเที่ยวจากทั้งสองทางที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดภายหลังการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ๒๕๖๗ โดยปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเหล่านี้มีหัวใจสำคัญ คือ ความเชื่อมโยงที่ก้าวไกลกว่าโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เนื่องจากมณฑลเสฉวนเป็นศูนย์กลางที่ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงไทยและจีน หรือภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงประเทศคู่ค้าภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership – RCEP) และทั่วโลก ตลอดจนมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ