เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานประเทศเกียรติยศเข้าร่วมงาน Western China International Investment and Trade Fair (WCIFIT) ครั้งที่ 7 โดยคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วยภาครัฐและเอกชนชั้นนำกว่า 40 ราย เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญ ณ นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและศูนย์ประชุมนานาชาติเยว่ไหล ภายใต้ธีม "New Western China, New Manufacturing, New Services" เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในภูมิภาคจีนตะวันตก
ดร.ลาลีวรรณฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือทวิภาคีกับนายสวีเจี้ยน (Xu Jian) รองนายกเทศมนตรีเมืองฉงชิ่งโดยการหารือเป็นไปอย่างอบอุ่นและสร้างสรรค์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมหลากหลายมิติ โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน
ดร.ลาลีวรรณฯ เน้นย้ำศักยภาพของนครฉงชิ่งในฐานะศูนย์กลางการขนส่ง การผลิต และนวัตกรรมของจีนตะวันตก พร้อมแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนความร่วมมือในสาขาสำคัญ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์สีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และการแปรรูปสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการใช้เส้นทาง New International Land-Sea Trade Corridor (ILSTC) เชื่อมโยงระหว่างนครฉงชิ่ง-ลาว-ไทย ซึ่งช่วยให้การขนส่งสินค้าไทยรวดเร็วขึ้นภายใน 5 วัน
ฝ่ายจีนโดยนายสวีเจี้ยน ได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างฉงชิ่งกับไทย พร้อมแสดงความขอบคุณที่ไทยให้เกียรติเป็น Country of Honour ในงาน WCIFIT ปีนี้ โดยแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนการเข้าถึงตลาดจีนตะวันตกของภาคเอกชนไทย ส่งเสริมการลงทุนร่วม และยินดีผลักดันการเชื่อมโยงโครงการในระดับท้องถิ่น พร้อมเชิญชวนบริษัทไทยเข้าร่วมในเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการพัฒนาใหม่ของนครฉงชิ่ง
ต่อมา ดร.ลาลีวรรณ พร้อมด้วยนายสวีเจี้ยน ได้ร่วมเยี่ยมชมหอนิทรรศการหลัก ซึ่งจัดแสดงศักยภาพด้านอุตสาหกรรม นวัตกรรม เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานของจีนตะวันตก โดยเฉพาะพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของประเทศไทยที่มีตราสัญลักษณ์การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน รวมทั้งมีตราสัญลักษณ์ของหน่วยงานที่ร่วมในการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครเซี่ยงไฮ้ และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ในโอกาสนี้ นายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้กล่าวแนะนำ Thai Pavilion ต่อเลขาธิการพรรคฯ และผู้เข้าชม โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยในการส่งเสริมสินค้าเกษตรแปรรูป ผลไม้ เทคโนโลยีอาหาร การท่องเที่ยวคุณภาพ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
ในลำดับต่อมา ดร.ลาลีวรรณฯ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนจากต่างประเทศทั้งหมด ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อนายหยวน เจียจวิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครฉงชิ่ง ในห้วงการพบหารือแบบกลุ่มระหว่างนายหยวนฯ กับแขกกิตติมศักดิ์ที่มาร่วมงาน โดยย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม ท่ามกลางบริบทโลกที่ท้าทาย โดยเฉพาะการใช้เวที WCIFIT เป็นกลไกขับเคลื่อนความร่วมมือรูปธรรมระหว่างประเทศในลุ่มน้ำโขง–ล้านช้าง อาเซียน–จีน และภาคีในกรอบ Belt and Road Initiative
นายหยวนฯ แสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อบทบาทนำของไทยในเวทีพหุภาคี และแสดงเจตจำนงที่จะผลักดันความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานภูมิภาค การสร้างแพลตฟอร์มการค้าอัจฉริยะ และการส่งเสริมให้บริษัทชั้นนำของจีนเข้าไปลงทุนในโครงการ EEC ของไทย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน–ไทยให้ก้าวเข้าสู่ “ยุคทอง” ของมิตรภาพและหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้ยกตัวอย่างการขยายฐานการผลิตของบริษัท ฉางอัน ไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดระยองด้วย ทั้งนี้ ดร.ลาลีวรรณฯ เป็นผู้นำ ต่างประเทศที่ได้กล่าวเป็นท่านแรกและท่านเดียว นอกจากเลขาธิการพรรคฯ และผู้เข้าร่วมการประชุมชาวจีนท่านอื่นอีก 4 ท่าน
ในวันเดียวกัน ดร.ลาลีวรรณฯ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สถานีโทรทัศน์ CCTV สถานีโทรทัศน์นครฉงชิ่ง และสำนักข่าว Xinhua และสำนักข่าวอื่น ๆ กว่า ๑๐ แห่งเกี่ยวกับบทบาทของไทยในงาน Western China International Investment and Trade Fair (WCIFIT) ครั้งที่ 7 ในฐานะประเทศเกีรติยศครั้งนี้อีกด้วย