เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๘ นางสาว Han Xiaoyu รองหัวหน้ารัฐบาลเขตชาผิงป้า นครฉงชิ่ง (The People’s Government of Shapingba District, Chongqing) และคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเสก นพไธสง กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยว และความเชื่อมโยงระหว่างเขตชาผิงป้ากับไทยและอาเซียน
กงสุลใหญ่ฯ ได้ต้อนรับคณะจากเขตชาผิงป้าและย้ำความเชื่อมั่นของไทยต่อข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาคที่มีความมั่นคง และในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคตะวันตกของจีนโดยเฉพาะนครฉงชิ่ง ผ่านเส้นทาง New International Land-Sea Trade Corridor (ILSTC) ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการรถไฟจีน – ลาว – ไทย และเส้นทางรถไฟจีน – ยุโรป (China–Europe Railway Express) ที่จะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการขนส่งสินค้า
นอกจากนี้ ไทยยังตระหนักถึงบทบาทสำคัญของนครฉงชิ่งในฐานะศูนย์กลางด้านความเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรป ไปจนถึงภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกโดยรวม โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายที่ตอบสนองต่อการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงอย่างก้าวกระโดดในภูมิภาค เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะเป็นช่องทางใหม่ที่เชื่อมมหาสมุทรอินเดียไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก การมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่ม BRICS ในฐานะประเทศหุ้นส่วน การเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership – RCEP) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor – EEC) ของไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อไป
นางสาว Han Xiaoyu และคณะได้นำเสนอถึงศักยภาพของเขตชาผิงป้า ซึ่งเป็นเขตสำคัญของนครฉงชิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ ๓๖๙ ตารางกิโลเมตร มีประชากรประจำกว่า ๑.๕ ล้านคน และมีมูลค่า GDP ในปี ๒๕๖๗ กว่า ๑๒๐,๐๐๐ล้านหยวน (๑๖.๘ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เติบโตขึ้นร้อยละ ๖.๕ จากปีก่อนหน้า
ในด้านความเชื่อมโยงและโลจิสติกส์ เขตชาผิงป้าเป็นต้นทางของขบวนรถไฟจีน – ยุโรปและมีบทบาทสำคัญในเส้นทาง ILSTC โดยในปี ๒๕๖๘ ได้มีการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟจีน – ลาว – ไทย แล้วกว่า ๑๖๒ ขบวน รวมมูลค่าสินค้ากว่า ๒,๖๐๐ ล้านหยวน (๓๖๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมถึงมีการเปิดขบวนรถไฟตรงจากนครฉงชิ่งสู่แหลมฉบังที่ใช้เดินทางเวลาเพียง ๙ วัน ผ่านการขนส่งทางรางและทะเล นอกจากนี้ เขตชาผิงป้ายังมีแผนจะเปิดเขตปลอดภาษีรวมในเส้นทางรถไฟภายในปีนี้ด้วย
เขตชาผิงป้ายังมีความโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่และอัจฉริยะ และเทคโนโลยีดิจิทัล โดยบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าฉางอาน (Changan) ตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ในพื้นที่ และสามารถดึงดูดผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กว่า ๕๐ บริษัทมาลงทุนในเขตฯ มูลค่ากว่า ๕๐,๐๐๐ ล้านหยวน (๗ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ด้านการศึกษา เขตชาผิงป้าถือเป็นศูนย์กลางการศึกษาและการวิจัยที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจีนตะวันตก โดยมีโรงพยาบาลตติยภูมิ ๘ แห่ง มหาวิทยาลัยและโรงเรียนรวมกว่า ๑๐๐ แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยฉงชิ่งและโรงเรียนมัธยมนานไค ซึ่งมีนักศึกษาไทยศึกษาอยู่กว่า ๑๐๐ คน รวมถึงมีแพลตฟอร์มวิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับชาติ ๒๑ แห่ง และบุคลากรมากกว่า ๔๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาและการวิจัยกับประเทศไทยในอนาคต
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันต่อไป โดยเฉพาะในด้านความเชื่อมโยงการขนส่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานใหม่ และการศึกษา และนางสาว Han Xiaoyu ยังได้เชิญกงสุลใหญ่ฯ เข้าร่วมงาน The Shapingba – ASEAN Fair for Investment and Trade 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๘