เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ
ในฐานะประธานประเทศเกียรติยศเข้าร่วมพิธีเปิดงาน Western China International Investment and Trade Fair (WCIFIT) ครั้งที่ 7 ณ นครฉงชิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า
และการลงทุนที่สำคัญของจีนตะวันตก ภายใต้ธีม "New Western China, New Manufacturing,
New Services"

ดร.ลาลีวรรณฯ ซึ่งได้ขึ้นกล่าวเป็นท่านแรก ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศเกียรติยศ ได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างไทย–จีน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย เป็นตลาดส่งออกลำดับต้นของไทยและมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยมากที่สุดในปีที่ผ่านมา รวมถึงเน้นย้ำถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนให้ได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และได้รับประสบการณ์การต้อนรับที่อบอุ่นในประเทศไทย รวมถึงบทบาทร่วมกันของไทย–จีนในฐานะประธานร่วมกลไกความร่วมมือแม่โขง–ล้านช้าง (MLC) ปี 2567–2568 โดยมุ่งเน้นความร่วมมือที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประเทศสมาชิกในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

การเปิดพิธีศาลาไทย

ภายหลังพิธีเปิดงาน WCIFIT ดร.ลาลีวรรณฯ ได้ร่วมกับนายสวี เจี้ยน รองนายกเทศมนตรีเมืองฉงชิ่ง
เป็นประธานในพิธีเปิดศาลาไทย (Thailand Pavilion) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาด 600 ตารางเมตร ที่จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ในรูปแบบ Public–Private Partnership ประกอบด้วยบูธจากวิสาหกิจไทยรวม 39 ราย อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือกระทิงแดง ธนาคารกสิกรไทย สายการบินไทย สมาคมการท่องเที่ยวสมุย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นิคมอุตสาหกรรม 304 และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี AI และบริการทรัพยากรบุคคลและอื่น ๆ จากประเทศไทย

การเปิดศาลาไทยเป็นจุดสนใจสำคัญของงาน โดยสามารถสะท้อนศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม การลงทุน และการค้าภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนแสดงถึงความตั้งใจของไทยที่จะเชื่อมโยงจีนตะวันตกกับอินโดแปซิฟิก และตลาดโลกในอนาคต

ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของไทยในงาน WCIFIT ครั้งนี้ ยังตอกย้ำถึงความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน และการขับเคลื่อนมิตรภาพสองประเทศให้เข้าสู่ “ยุคทอง” ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนอย่างแท้จริง