เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก พร้อมด้วยนางสาวกณวัณ ไวทยกิจกำจร เลขานุการเอก ได้พบหารือกับนาย Antonio Lim Henríquez Young อุปทูตฯ รักษาการแทนเอกอัครราชทูตปานามาประจำประเทศชิลี และนาง Flor María Ochy เลขานุการเอก เพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย - กัมพูชา
เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความยินดีกับปานามาในการดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council - UNSC) ระหว่างวันที่ 1–31 สิงหาคม 2568 และยืนยันการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากฝ่ายไทย โดยเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ที่มีร่วมกันในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาระดับโลก
เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความหวังว่า ฝ่ายปานามาจะเข้าใจและสนับสนุนความพยายามของไทยในการแสวงหาทางออกที่ยั่งยืนและสันติภาพระหว่างไทย – กัมพูชา ตามที่ไทยและกัมพูชาได้เห็นพ้องร่วมกันภายหลังการหารือที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) สมัยพิเศษ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 และเชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยและเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรปานามาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก จะได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดต่อไปในเรื่องนี้
เอกอัครราชทูตฯ ได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด โดยไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วน พร้อมเน้นย้ำว่า ฝ่ายไทยได้ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุดและตอบโต้เพียงเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น และไทยมุ่งมั่นรักษาการหยุดยิงและแก้ไขสถานการณ์ชายแดนด้วยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 โดยที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ ครอบคลุมมาตรการยุติการสู้รบ การลดระดับสถานการณ์ทางทหาร และการมีผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนเพื่อติดตามการปฏิบัติ
อุปทูตฯ ปานามา ได้แสดงความขอบคุณสำหรับข้อมูลชี้แจงและความคืบหน้าล่าสุดจากการประชุม GBC พร้อมยืนยันว่าหนังสือและเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ชี้แจงข้อมูลและท่าทีไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ได้รับการส่งต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของปานามาอย่างทันท่วงที และเอกสารประกอบที่มอบให้ในระหว่างการหารือครั้งนี้ตนจะส่งต่อให้รัฐบาลปานามาโดยเร็วเช่นกัน
การหารือครั้งนี้เป็นไปด้วยบรรยากาศฉันมิตร โดยอุปทูตฯ ปานามา เห็นว่าการพบหารือในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างปานามาและไทย พร้อมทั้งได้แสดงความขอบคุณต่อกรมความร่วมมือระหว่างประเทศของไทย (TICA) ที่ได้มอบทุนหลักสูตรฝึกอบรมนานาชาติประจำปีให้แก่บุคลากรชาวปานามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายปานามาได้รับประโยชน์อย่างมากจากองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ประเทศไทยถ่ายทอด