เมื่อวันที่ 9 - 10 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ได้รับฟังการบรรยายและแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ระหว่างการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 เพื่อวางยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบแนวทางการดำเนินยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของไทยที่ยืดหยุ่น เพื่อปรับตัวและรับมือกับการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่รุนแรงมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจด้วยการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากทุกขั้ว รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ยังได้ระดมสมองกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ โดยใช้จุดแข็งของภาคการผลิตไทยในการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่

(1) ธุรกิจทางการเงิน โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเตรียมความพร้อมด้านกฎระเบียบและสถาบัน เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค

(2) อุตสาหกรรม AI โดยดึงดูดการลงทุนในระบบนิเวศ AI อย่างครอบคลุม ชูจุดเด่นด้านกฎระเบียบและจุดยืนการเป็น AI Neutral Hub เพื่อให้ไทยไม่พลาดขบวนเศรษฐกิจแห่งอนาคต

(3) อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยมุ่งดึงดูดการลงทุนในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

(4) อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยมุ่งดึงดูด supply chain ทั้งการผลิตและศูนย์วิจัยและพัฒนา เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออก EV ของภูมิภาค และ

(5) โครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งด้านที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของไทย

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมทีมกันเป็น Destination Marketers ในการส่งเสริมอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวของไทยผ่านหลากหลายกลยุทธ์ ทั้งการดึงดูดการจัดงาน (event) ระดับโลก การเจรจาเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และการรุกตลาดท่องเที่ยวใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง