เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานการประชุมแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 27 โดยไทยเป็นเจ้าภาพจัดที่กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิดหลัก “ส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุม การพัฒนาที่สมดุล และความเจริญรุ่งเรืองผ่านการบูรณาการรัฐบาลท้องถิ่นและภาคเอกชนในภูมิภาค GMS”
ไทยเสนอประเด็นยุทธศาสตร์ 3 ด้านในการขับเคลื่อน GMS ได้แก่ (1) การรับมือกับความท้าทายเร่งด่วนในอนุภูมิภาค อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ คุณภาพน้ำและการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงมลพิษข้ามพรมแดน (2) การส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ผ่านการดําเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Transport Facilitation Agreement: CBTA) และ (3) การส่งเสริมความสอดประสานระหว่าง GMS กับกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อาทิ ACMECS และ MLC ตลอดจนกรอบความร่วมมืออื่น ๆ อาทิ IMT-GT และ BIMSTEC
รัฐมนตรีฯ ยังได้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีแผนงาน GMS อย่างไม่เป็นทางการ (Ministerial Retreat) ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีฯ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนและรัฐบาลท้องถิ่นในการขับเคลื่อนการเติบโตผ่านโครงการของ GMS การระดมทุน และการส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุมในภูมิภาค
อนึ่ง แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เป็นความร่วมมือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีนตอนใต้ (มณฑลยูนนานและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 โดยมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เป็นสำนักเลขาธิการ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ GMS มีสาขาความร่วมมือทั้งสิ้น 10 สาขา ได้แก่ คมนาคมขนส่ง โทรคมนาคม พลังงาน การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข อำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน การเกษตร และการพัฒนาเมือง