วันที่นำเข้าข้อมูล 5 พ.ย. 2568
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2568
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำการบรรยายสรุปเกี่ยวกับผลการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 ของคณะผู้แทนไทย ให้แก่คณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย โดยมีนายพลพงศ์ วังแพน อธิบดีกรมอาเซียน และนางสาวรุจิกร แสงจันทร์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ร่วมบรรยายด้วย การบรรยายสรุปดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของไทยในการประชุมฯ และแนวทางการดำเนินการของไทยในระยะต่อไปเพื่อขยายผลการประชุมดังกล่าว โดยมีคณะทูตต่างประเทศเข้าร่วมการบรรยายสรุปจำนวนกว่า 100 คน จาก 68 ประเทศ 1 องค์กร (สหภาพยุโรป) และ 6 องค์การ
การประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคดังกล่าวเป็นการประชุมระหว่างประเทศเวทีแรกของนายกรัฐมนตรีหลังเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำตัวและพบหารือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายและวิสัยทัศน์ของไทย ในห้วงที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงบทบาทของไทยที่มุ่งผลักดันผลประโยชน์ของประเทศ และพร้อมที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะออนไลน์สแกม โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศเรื่องการป้องกันและปราบปรามออนไลน์สแกม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากหลายประเทศ นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่มีการหารือกัน เช่น สถานการณ์ในเมียนมา โดยไทยสนับสนุนการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ (Five-Point Consensus) พร้อมเสนอข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียน โดยหวังว่า การเลือกตั้งในเมียนมาที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกระบวนการสันติภาพ ช่วยให้เกิดการหารือที่ครอบคลุมทุกฝ่าย
ในโอกาสนี้ อธิบดีกรมอาเซียนและอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมการประชุมฯ และประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีการหารืออย่างกว้างขวาง อาทิ การส่งเสริมความเป็นแกนกลางและความเป็นเอกภาพของอาเซียนในการรับมือกับความไม่แน่นอนต่าง ๆ การเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล ธรรมาภิบาลด้านปัญญาประดิษฐ์ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม
กรอบการประชุมระหว่างประเทศระดับภูมิภาคอย่างอาเซียนและเอเปคสะท้อนถึงความสำคัญของภูมิภาคนิยม (Regionalism) และพหุภาคีนิยม (Multilateralism) ว่า ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคหรือระดับโลกได้เพียงลำพัง ซึ่งบทบาทของไทยในการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนระบอบพหุภาคีและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาคมระหว่างประเทศ
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **