การบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ เรื่องพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

การบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ เรื่องพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

วันที่นำเข้าข้อมูล 12 พ.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 12 พ.ย. 2568

| 35 view

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงเหตุการณ์การเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยทหารไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และท่าทีและการดำเนินการของไทยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว  โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ร่วมด้วยนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดล่าสุด ถือเป็น ‘ความถดถอยสำคัญ’ ต่อการลงนามถ้อยแถลงร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 และการนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศ 

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยตนได้หารือกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 และ 11 พฤศจิกายน 2568 เพื่อประท้วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยแล้ว ในการนี้ ไทยได้ส่งหนังสือประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชา และจะประท้วงไปยังประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงส่งหนังสือชี้แจงถึงสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียในฐานะผู้สังเกตการณ์การลงนามถ้อยแถลงร่วมฯ ต่อไปด้วย 

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า เหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดทำให้กำลังพลไทยบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งนายบาดเจ็บรุนแรงถึงสูญเสียข้อเท้าขวา ทีมผู้เชี่ยวชาญพบเศษทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณหลุมระเบิด และพบทุ่นระเบิด PMN-2 ใหม่อีก 3 ทุ่นรอบพื้นที่ ซึ่งไทยไม่มีทุ่นระเบิดฯ ชนิดนี้ ทำให้ชี้ชัดว่าเป็นการวางโดยฝ่ายกัมพูชา

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพ พร้อมทั้งยึดมั่นต่อการปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมกับกัมพูชามาโดยตลอด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความไม่จริงใจของกัมพูชา ทำให้ไทยต้องระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วมฯ และชะลอการปล่อยตัวเชลยศึก 18 คนออกไป อย่างไรก็ตาม การเก็บกู้ทุ่นระเบิดฯ และปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ในดินแดนอธิปไตยของไทยจะยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการ ตรวจสอบเหตุการณ์ แสดงความรับผิดชอบ และดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก

การบรรยายสรุปครั้งนี้มีคณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยเข้าร่วม 71 คน จาก 59 ประเทศ 1 องค์กร (สหภาพยุโรป) และ 4 องค์การระหว่างประเทศ 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ