สาร โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส “วันสหประชาชาติ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘” วันศุกร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

สาร โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส “วันสหประชาชาติ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘” วันศุกร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ต.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 ต.ค. 2568

| 173 view

สาร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี 

เนื่องในโอกาส “วันสหประชาชาติ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘”

วันศุกร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

 

เนื่องในโอกาสวันสหประชาชาติ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ ผมในนามของรัฐบาลไทย ขอแสดงความยินดีแก่สหประชาชาติเนื่องในโอกาสครบรอบ ๘๐ ปีและขอชื่นชมบทบาทของสหประชาชาติ ในการส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคง การพัฒนาที่ยั่งยืน และสิทธิมนุษยชนตลอดช่วง ๘ ทศวรรษที่ผ่านมา ไทยในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อนวาระดังกล่าว และธำรงไว้ซึ่งระบอบพหุภาคี โดยมีกฎบัตรสหประชาชาติเป็นแกนสำคัญ

แม้สหประชาชาติจะก่อตั้งมาแล้วถึง ๘๐ ปี แต่โลกของเรายังเผชิญกับวิกฤตซ้อนวิกฤตจำนวนมาก ทั้งปัญหาความขัดแย้งในหลายภูมิภาค ความเหลื่อมล้ำ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และสุขภาพ รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยมองว่า ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องเร่งหาทางแก้ไข อย่างไรก็ดี การรับมือกับความท้าทายเหล่านี้เกินกำลังกว่าที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะสามารถทำได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากประชาคมโลก โดยมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว   

ในช่วง ๘๐ ปีที่ผ่านมา ไทยได้มีบทบาทอย่างแข็งขันในการสนับสนุนภารกิจหลักของสหประชาชาติในทั้ง ๓ เสาหลักที่กล่าวไว้ข้างต้น 

ในด้านสันติภาพและความมั่นคง ประเทศไทยยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติ เราเชื่อมั่นว่า หลักการเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทั้งในระดับโลกและภูมิภาค และการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศโดยการพูดคุยอย่างสันติ ด้วยสุจริตใจ นอกจากนี้ ไทยยังมีส่วนร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ โดยได้ส่งกำลังพลทั้งทหารและตำรวจเข้าร่วมในปฏิบัติการรักษาสันติภาพกว่า ๒๐ ภารกิจทั่วโลก และไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของเจ้าหน้าที่สตรีและการการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการเสริมสร้างสันติภาพในพื้นที่ ในการนี้ ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพทุกท่านที่ได้อุทิศตนเพื่อมนุษยชาติ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยในเวทีโลก

ในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยยินดีที่แนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติหรือ SDGs และมุ่งการสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างแท้จริง 

เรายังเดินหน้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างสังคมที่เป็นธรรม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ครอบคลุมทุกครัวเรือน การกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ภูมิภาค และการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รวมถึงการศึกษาเท่าเทียม เพื่อให้ประชาชนทุกหย่อมหญ้ามีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศในการเป็นศูนย์กลางของสำนักงานสหประชาชาติในภูมิภาค โดยกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือเอสแคป (ESCAP) และหน่วยงานภายใต้สหประชาชาติกว่า ๔๐ แห่ง ผมขอให้คำมั่นว่า ไทยจะทำหน้าที่ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต่อไป สมกับความไว้วางใจที่ได้รับ

สุดท้ายนี้ ผมขอย้ำว่า สหประชาชาติไม่ใช่เรื่องไกลตัว เนื่องจากไทยเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศ  และร่วมมือกับรัฐสมาชิกอีก ๑๙๒ รัฐสมาชิกในการขับเคลื่อนวาระสำคัญ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาคมโลกโดยรวม ผมขอฝากความปรารถนาดีไปยังเลขาธิการสหประชาชาติ และขอให้ท่านมั่นใจว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของสหประชาชาติในทุกมิติ รวมถึงข้อริเริ่มของเลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN80 Initiative ในการปฏิรูปสหประชาชาติให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงไปของโลก 

ผมขออวยพรให้วันสหประชาชาติในปีนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างทุกฝ่าย เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษยชาติ และเพื่อโลกที่สงบสุข และยั่งยืน สำหรับลูกหลานของเราทุกคนสืบไป