นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายแก่เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในโอกาสเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568

นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายแก่เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในโอกาสเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 มิ.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 10 มิ.ย. 2568

| 365 view

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยจาก 98 สำนักงานทั่วโลก ในพิธีเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 ที่กรุงเทพฯ ในหัวข้อ “การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชน: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” โดยมีผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าร่วม และสมาชิกทีมประเทศไทยในต่างประเทศรับฟังผ่านช่องทางออนไลน์

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำความสำคัญของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ในฐานะด่านหน้าของประเทศไทย และมอบโจทย์ให้ที่ประชุมระดมสมองเพื่อปรับยุทธศาสตร์การต่างประเทศในการรับมือกับบริบทโลกที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญและความท้าทายรอบด้าน เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดภายใต้โครงสร้างอำนาจและระเบียบโลกใหม่

นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายเกี่ยวกับทิศทางการต่างประเทศไทยว่า ภายใต้บริบทโลกปัจจุบัน ไทยต้องเน้น 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ (1) การเสริมสร้างและต่อยอดจุดแข็งของประเทศ โดยเฉพาะจุดยืนทางการทูตที่ชัดเจนในการเป็นมิตรและเข้าได้กับทุกฝ่าย และมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนานาประเทศเพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน และ (2) การแสวงหาและช่วงชิงโอกาสใหม่ ๆ อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะผ่านการขับเคลื่อนการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของไทย ขับเคลื่อนกลไกทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งภาคการส่งออกและภาคบริการ และสตาร์ทเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ผ่านการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความกินดีอยู่ดี มีรายได้ที่มั่นคง

ในโอกาสเดียวกันนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เน้นหลักการสำคัญในการขับเคลื่อนการต่างประเทศไทย ได้แก่ (1) การรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์กับมหาอำนาจหลักและการเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับมหาอำนาจรองเพื่อกระจายความเสี่ยง (2) การเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการกำหนดระเบียบโลกใหม่ในประเด็นต่าง ๆ และของกลุ่มต่าง ๆ อย่างทันท่วงที (3) การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และ (4) การขับเคลื่อนการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ