สรุปการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง วันที่ 28 ตุลาคม 2568

สรุปการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง วันที่ 28 ตุลาคม 2568

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ต.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 ต.ค. 2568

| 13 view

สรุปการแถลงข่าว
ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

โดยรองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น.
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

 

  • การแถลงข่าววันนี้จะเป็นการสรุปผลการประชุมในกรอบอาเซียนที่สำคัญและการหารือทวิภาคีกับประเทศต่าง ๆ ของคณะผู้แทนไทย เมื่อวันที่ 27 และ 28 ตุลาคม 2568 ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
  • ประเทศไทยยังคงยึดมั่นที่จะแสดงบทบาทในฐานะ “ผู้เล่นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนา”

 

1. การประชุมในกรอบอาเซียน 

การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 20

  • เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ รัสเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ
  • ที่ประชุมหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้ EAS เพื่อตอบสนองต่อประเด็นความท้าทายต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมถึงแลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ อาทิ สถานการณ์ในเมียนมา ทะเลจีนใต้ คาบสมุทรเกาหลี ยูเครน และตะวันออกกลาง
  • ที่ประชุมรับรองปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ EAS และแถลงการณ์ผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยการส่งเสริมการปฏิบัติล่วงหน้าในการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อภัยพิบัติในระดับพื้นที่
  • นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึง (1) บทบาทของ EAS ในฐานะกลไกการหารือระดับผู้นำในประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค (2) การยึดมั่นในหลักการการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี (3) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการ EAS (4) ความเป็นแกนกลางและเอกภาพของอาเซียน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และ (5) ประเด็นความท้าทายข้ามพรมแดนที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องของการหลอกลวงทางออนไลน์
  • ประเด็นหลัก ๆ ที่ผู้เข้าร่วมการประชุมหยิบยก อาทิ (1) สถานการณ์ในเมียนมา ที่ประชุมสนับสนุนการยุติความรุนแรงและส่งเสริมการหารือที่ครอบคลุมของทุกฝ่าย และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (2) สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ที่ประชุมสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และ (3) สถานการณ์ในกาซา ที่ประชุมยินดีต่อข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับฮามาส สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน และการแก้ไขปัญหาโดยใช้แนวทางสองรัฐเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน
  • มีการหยิบยกประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยหลายประเทศกล่าวแสดงความยินดีต่อการลงนามถ้อยแถลง (Joint Declaration) ผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 และหวังให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามด้วยความจริงใจเพื่อปูทางไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

การประชุมสุดยอดอาเซียน - สหประชาชาติ ครั้งที่ 15

  • เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15
  • ที่ประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ รับทราบแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ (ค.ศ. 2026-2030) และเห็นชอบเอกสารการส่งเสริมความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 กับวาระการพัฒนา ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ (Complementarities Initiative 0) ซึ่งเป็นข้อริเริ่มของไทย ในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
  • รัฐมนตรีฯ แสดงความมุ่งมั่นในการยึดมั่นในระบบพหุภาคีและกติการะหว่างประเทศ แสดงความพร้อมร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา และมุ่งเสริมความร่วมมือในการรับมือกับภัยคุกคามใหม่และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ โดยไทยพร้อมจัดการประชุมระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ

การประชุมสุดยอดอาเซียน - จีน ครั้งที่ 28

  • เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - จีน ครั้งที่ 28
  • ที่ประชุมลงนามในพิธีสารเพื่อยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) 0 ย้ำความร่วมมืออาเซียน-จีนภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership: CSP) ที่จะครบ 5 ปี ในปี 2569
  • ที่ประชุมหารือความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รวมถึงการดำเนินการภายใต้ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน (ปี 2567 - 2568) และหารือสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
  • นายกรัฐมนตรีย้ำถึงประเด็น

(1) การบูรณาการทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน สร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ MSMEs ส่งเสริมความร่วมมือเศรษฐกิจสีเขียว การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล และการเกษตรอัจฉริยะ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - จีน 3.0 และ RCEP

(2) ประเด็นความมั่นคงข้ามพรมแดน โดยเฉพาะภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ และปัญหา สิ่งแวดล้อม อาทิ มลพิษหมอกควันข้ามแดน

(3) การเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ โดยเน้นย้ำการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธีและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และการส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีนต่อสถานการณ์ในภูมิภาค

การประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ

  • เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ
  • การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเนื่องจากมีการยกระดับความสัมพันธ์จากความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership: SP) สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership: CSP) ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - นิวซีแลนด์ ในปีนี้
  • ที่ประชุมรับรองเอกสาร 1 ฉบับ คือ ASEAN - New Zealand Leaders’ Joint Vision Statement on the 50th Anniversary of ASEAN - New Zealand Dialogue Relations และรับทราบแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าว สำหรับปี ค.ศ. 2026-2030
  • นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน โดยได้กล่าวสนับสนุนความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงออนไลน์ การส่งเสริมความร่วมมือด้านภัยพิบัติและสาธารณสุข ระบบการค้าพหุภาคี ตลอดจนความร่วมมือด้านวาระสีเขียว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตรยั่งยืน และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
  • ประเทศไทยตระหนักถึงการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อเมียนมาของนิวซีแลนด์ผ่านกลไกของอาเซียน และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับนิวซีแลนด์เพื่อสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา

การประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย ครั้งที่ 5

  • เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย ครั้งที่ 5
  • ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าของการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน - ออสเตรเลียให้เป็นรูปธรรมภายใต้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน และผลการดำเนินการตามข้อริเริ่มต่าง ๆ จากการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลียเพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - ออสเตรเลีย เมื่อปี 2567
  • ที่ประชุมรับรองถ้อยแถลงร่วมของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลียว่าด้วยการป้องกันความขัดแย้งและการบริหารสถานการณ์วิกฤต ในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่อาเซียนมีบทบาทนำ
  • รัฐมนตรีฯ ผลักดันความร่วมมือกับออสเตรเลียผ่านความมั่นคง 3 ด้าน ได้แก่ (1) ความมั่นคงในภูมิภาค สนับสนุนความร่วมมือพหุภาคี ความมั่นคงทางทะเล ความมั่นทางไซเบอร์ การต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์และการค้ามนุษย์ (2) ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจผ่านกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ เช่น AANZFTA และ RCEP เสนอจัดงาน CEO Forum ในอาเซียน และกระชับความร่วมมือผ่าน ACMECS และ (3) ความมั่นคงทางมนุษย์ ส่งเสริมความร่วมมือที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข การศึกษา และวาระสีเขียว

 

2. การหารือทวิภาคีระดับนายกรัฐมนตรี

  • เมื่อวันที่ 27 และ 28 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน และกัมพูชา รวมถึงรองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก
  • ประเด็นหลัก ๆ ที่มีการหารือกัน ประกอบด้วย การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือน การเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกัน ความร่วมมือด้านการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
  • ในการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา นายกรัฐมนตรีขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่มีหนังสือแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งยังย้ำความสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะต้องนำถ้อยแถลง (Joint Declaration) ไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและจริงใจให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นที่ได้ตกลงกัน ได้แก่ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะสแกมเมอร์ และ การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน รวมถึงย้ำความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่ายที่ต้องดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นควรเพิ่มการสื่อสารทางการทูตระหว่างกัน โดยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศพบหารือกันโดยเร็ว

 

สามารถรับฟังการแถลงข่าวย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/IFb4JQwEen8

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ