สรุปการแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ และทาง Facebook/TIKTOK LIVE กต.
1. การดำเนินการในเวทีระหว่างประเทศ
- รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ตั้งแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ รวมถึงการยื่นหนังสือประท้วงในหลายกรอบ ทั้งตามอนุสัญญาออตตาวา กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวา ทั้งในประเด็นที่กัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการโจมตีพื้นที่พลเรือนในประเทศไทย
- ในช่วงที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNSC Open Debate ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และได้พบหารือกับผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติ และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงว่า ไทยได้พยายามใช้แนวทางสันติวิธีและความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุดในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา โดยยึดมั่นในอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ไทยให้ความสำคัญต่อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน ความตกลงระหว่างประเทศ และความเป็นครอบครัวของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยตลอดเวลาประเทศไทยได้ใช้ความอดทนและไม่ทำให้สถานการณ์บานปลาย อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกกัมพูชาโจมตี ไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองเพื่อตอบโต้การปะทะจากกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
- ไทยได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศในบทบาทที่ยึดมั่นในแนวทางสันติ โดยได้ผลักดันการเจรจาทวิภาคีภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ หลังจากที่กัมพูชาพยายามนำเรื่องปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชาเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรื่องดังกล่าวจึงได้รับบรรจุในการหารือในการประชุมแบบปิด (เฉพาะ 15 รัฐสมาชิก และ 2 ประเทศคู่กรณี) แต่ได้ยุติลงเพียงในระดับนั้น เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือของไทยในสายตานานาประเทศ ทำให้ไทยประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย คือ การแสดงให้ทุกประเทศเห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่รักสงบแต่ไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย
2. การประชุมพิเศษระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซีย
- เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ในห้วงการเข้าร่วมการประชุมพิเศษที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ไทยยังคงยืนยันยึดหลักการเดิม คือการแก้ปัญหาโดยใช้สันติวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียเพิ่มเติม และเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตย โดยได้มีการประสานและหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและฝ่ายทหารอย่างต่อเนื่อง
- ทั้งสองฝ่ายสามารถลดความตึงเครียด ลดการปะทะ และนำไปสู่การเจรจาอย่างเป็นรูปธรรม โดยไทยสามารถโน้มน้าวให้อาเซียน ผ่านมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมทั้งสหรัฐฯ และจีน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชาภายใต้กลไกที่มีอยู่ โดยได้ตกลงให้มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างแม่ทัพภาคที่ 1 และภาคที่ 2 ของไทยและกับผู้บัญชาการภาคที่ 4 และภาคที่ 5 ของกัมพูชา เพื่อหาทางลดการปะทะและให้ข้อตกลงหยุดยิงเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง
- ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้เห็นได้ชัดว่า นโยบายการเจรจาทวิภาคีที่ไทยยึดถือได้รับการสนับสนุนจากกลไกระหว่างประเทศ ประเทศพันธมิตร ประเทศมหาอำนาจ และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเมื่อเกิดการปะทะขึ้น ไทยก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีทางใดจะดีไปกว่าการหันกลับมาเจรจาระหว่างกันโดยตรง
3. การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา
- หลังจากเวลา 00.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ได้มีการตกลงหยุดยิง ปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชายังละเมิดข้อตกลง ต่อมา การหารือของแม่ทัพภาคของทั้งสองฝ่ายถูกเลื่อนไปจนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568
- ขณะนี้ ไม่มีการปะทะเพิ่มเติมแล้ว โดยในที่สุดเป็นผลจากการพูดคุยระหว่างแม่ทัพภาคของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดน
- เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 รัฐมนตรีฯ ได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการประชุมพิเศษและพยานในการเจรจา เพื่อชี้แจงสถานการณ์และความจำเป็นในการยื่นประท้วงผ่านประธานอาเซียน และได้จัดส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปแล้ว รวมถึงได้แจ้งประเทศพยานอีกสองประเทศ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ให้ทราบถึงการละเมิดดังกล่าวด้วย
- นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ยังได้มีการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรี กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยได้แจ้งถึงเหตุการณ์การละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และแสดงความประสงค์ที่จะประท้วงกรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมถึงได้ชี้แจงต่อประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในขณะนั้นด้วย
- ต่อมาในวันเดียวกัน รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา โดยย้ำว่า เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน เพราะขณะที่มีความพยายามลดความตึงเครียดและคลี่คลายสถานการณ์ ก็ยังมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นอยู่ อย่างไรก็ดี ความพยายามทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งไทยจะไม่ยอมถูกละเมิดโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งยืนยันว่า ไทยต้องการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและด้วยความสุจริตใจ ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลยึดถือเสมอมา
สามารถรับฟังการแถลงข่าวย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/1GFRJRZt3u/?