เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และภริยา พร้อมด้วยคณะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสการเยือนราชอาณาจักรภูฏานระหว่างวันที่ 18 - 20 ตุลาคม 2568 เพื่ออัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดคึนเรย์ ป้อมทาชิโช กรุงทิมพู
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พร้อมทั้งถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ซิงเย วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน พระองค์ที่ 4 เนื่องในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยินดีกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับภูฏานซึ่งหยั่งรากลึกจากสายสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างพระราชวงศ์ของทั้งสองประเทศ สะท้อนจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 25 - 28 เมษายน 2568 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรู้สึกเป็นเกียรติ อย่างยิ่งที่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏานจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย เพื่อทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายปริญญา ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเดือนธันวาคม 2568
ในโอกาสดังกล่าว สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏานตรัสเกี่ยวกับพระวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมืองแห่งสติเกเลฟู (Gelephu Mindfulness City :GMC) ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูฏาน ควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติของภูฏาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทย ในการร่วมมือกับภูฏานในโครงการดังกล่าว ตลอดจนการสานต่อโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ ในภูฏาน