ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตทั่วโลกยังคงเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อมุ่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาคมโลก โดยได้ดำเนินการผ่านกลไกทางการทูตทั้งทวิภาคีและพหุภาคีในการสื่อสารกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น

(1) เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้พบหารือกับนาย Benoît Guidée อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยย้ำว่าฝ่ายไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยความอดกลั้นและสันติวิธี แต่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้งและใช้กำลังโจมตีพลเรือนไทย ไทยจึงต้องตอบโต้ในลักษณะที่จำกัดเฉพาะเป้าหมายทางการทหาร โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาในกรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เพื่อมุ่งคลี่คลายความขัดแย้งโดยสันติวิธี

(2) เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรียส์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ได้พบหารือกับนาย Daniel Wolven อธิบดีกรมเอเชียแปซิฟิกและลาตินอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศสวีเดน เพื่อชี้แจงเรื่องสถานการณ์ การใช้เครื่องบิน Gripen ของไทยเพื่อโจมตีเป้าหมายทางการทหาร รวมถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามหลักสิทธิป้องกันตนเองและกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี โดยฝ่ายสวีเดนยืนยันว่าไม่ได้ระงับการขายเครื่องบิน Gripen ให้กับไทยตามที่มีข่าวปลอมปรากฏ

(3) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นางสาวจันทรรัตน์ งามชนะ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ได้พบหารือกับนาง Valentina Muiesan ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศอิตาลี ย้ำถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยฝ่ายกัมพูชา และชี้แจงพัฒนาการด้านต่าง ๆ

(4) สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ กรุงสตอกโฮล์ม กรุงจาการ์ตา และคูเวต ต่างดำเนินการชี้แจงสื่อมวลชนท้องถิ่นที่มีการรายงานข้อมูลคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสถานการณ์ โดยได้ชี้แจงข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ และขอให้สำนักข่าวตรวจสอบข้อมูลก่อนและนำเสนอข่าวอย่างถูกต้อง